วันนี้เราจะมาพูดถึงหัวข้อ เปรียบเทียบการฉีดไขมันหน้าและการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ แน่นอนว่า เมื่อพูดถึงการฉีดสารเติมเต็ม เราก็จะนึกถึง 2 สิ่งนี้ ถ้าใครกำลังสนใจที่จะปรับรูปหน้า แล้วลังเลว่าจะปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็มชนิดใดดี ต้องห้ามพลาดบทความนี้ เพราะว่าจะมาเปรียบเทียบระหว่าง ไขมันและฟิลเลอร์ ให้เห็นกันชัด ๆ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ
ฟิลเลอร์ คืออะไร
ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มผิวที่เรียกว่า สารไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารประกอบของคอลลาเจนที่มีอยู่แล้วในผิวหนัง ช่วยเพิ่มเส้นใยคอลลาเจนให้กับผิว นำมาใช้เติมเต็มในจุดที่บกพร่อง ให้กระชับอิ่มฟูขึ้น เต่งตึง สดใส อีกทั้งยังช่วยปรับแก้ไขรูปหน้าที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติภายใน 6 เดือน – 2 ปี
ไขมัน คืออะไร
สเต็มเซลล์ไขมัน คือ การนำไขมันจากร่างกายตัวเองมาทำการคัดแยกไขมันที่ดีมาเติมเต็มเพื่อแก้ไขปัญหาในจุดต่างๆบนใบหน้าเช่น บริเวณขมับ ร่องแก้ม ใต้ตา คาง หน้าผาก ช่วยให้คนที่ผิวหน้าโทรมไม่ว่าจะเกิดจากอายุวัย หรือแม้แต่การออกกำลังกายหนัก ๆ จนทำให้ไขมันที่หน้าหายไป ทำให้หน้าดูโทรมก่อนวัย เติมไขมันหน้าเพื่อให้กลับมาดูเต็มและสดใส
ความแตกต่างของฟิลเลอร์และไขมัน
การฉีดเติมเต็มและปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ เป็นสารไฮยาลูรอนิค แอซิด ใช้ในการรักษาริ้วรอยความเสื่อมของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ส่งผลให้ใบหน้าบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เต่งตึงขึ้น ดูมีน้ำมีนวล อีกทั้งยังเป็นการเติมเส้นใยคอลลาเจนที่หายไป ให้ผิวนั้นดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
“ไขมัน” ถือเป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่ง ที่สามารถฉีดในตำแหน่งที่ฟิลเลอร์ฉีดได้ โดยนำไขมันจากร่างกายของตนเองมาฉีดบริเวณใบหน้า โดยที่ไขมันส่วนใหญ่จะถือว่าเป็นฟิลเลอร์ชนิดกึ่งถาวร คือเมื่อเกิดการปลูกถ่ายย้ายที่เรียบร้อยแล้ว ไขมันก็จะติดคงทนในบริเวณที่เราฉีดเพิ่มตลอดไป เพื่อลบริ้วรอยให้ดูอ่อนเยาว์ ที่เรียกว่า การฉีดไขมันหน้า
แล้วอย่างนี้วิธีการเติมเต็มแบบไหนดีกว่ากัน แบบไหนที่คุ้มค่ามากกว่า อันนี้ก็ต้องพิจารณาจากความต้องการเป็นหลักก่อนว่าต้องการแก้ไขตำแหน่งไหน และมีจุดบกพร่องที่ต้องการเติมเยอะหรือป่าว ดูถึงความสะดวกในการดูแลหลังการรักษาด้วย มาดูการ เปรียบเทียบการฉีดไขมันหน้าและการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ เลือกแบบไหนที่ใช่ตรงใจคุณ
ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
- ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ ใช้เวลาน้อย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
- สามารถปรับโครงสร้างใบหน้าให้ได้รูป
- เติมเต็มจุดบกพร่องที่ทำให้ดูสูงวัย เช่น ริ้วรอย ร่องลึกรอบดวงตา มุมปาก แก้มตอบ หลุมสิว ให้เต่งตึงมากยิ่งขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ในทันทีที่ฉีด แก้ปัญหารอยแผลเป็น และยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งตามความเชื่อได้อีกด้วย
- ฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราวที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นสารจากธรรมชาติที่สามารถสลายได้
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์
- หากฉีดสารเติมเต็มในปริมาณมากๆ อย่างเช่น บริเวณสะโพกหรือหน้าอก พอนานวันเข้าก็อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนได้ เพราะการเติมต้องใช้ปริมาณมากและทำให้ราคาค่าใช้จ่ายสูงเกินไปเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้
- ในการฉีดฟิลเลอร์บางรายอาจมีอาการบวมแดงในบริเวณที่ฉีด แต่จะหายไปได้เองภายใน 2 วัน
ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดไขมัน
ข้อดีของการฉีดไขมันหน้า
- แผลเล็กเจ็บน้อย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน
- ไม่มีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เพราะเป็นการใช้ไขมันตนเอง
- ไขมันที่ฉีดเข้าไปหลังจากผ่านไป 6 เดือน จะอยู่ได้อย่างถาวร
- ไขมันเป็นฟิลเลอร์ที่มีชีวิตสามารถฟื้นฟูสภาพความมีชีวิตชีวาของผิวหน้าได้ เพราะไขมันมีเซลล์ไขมันปนอยู่
ทำให้หลังฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้าไปแล้ว จะดูเป็นธรรมชาติ แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น - ปลอดภัย100% ไม่มีผลข้างเคียงจากสารสังเคราะห์
ข้อเสียของการฉีดไขมันหน้า
- ไม่เหมาะกับคนที่ผอมมากๆ เพราะไม่สามารถดูดไขมันจากคนที่น้ำหนักตัวน้อยหรือผอมมากๆ ได้
- แม้ว่าผลการเติมเต็มไขมันจะดีขึ้นกว่าเดิม แต่ยังมีการสลายตัวบางส่วนของไขมันอยู่ ซึ่งปริมาณการสลายตัวของไขมันนั้นขึ้นกับธรรมชาติของแต่ละคน และในแต่ละตำแหน่งของร่างกายก็จะมีการตอบสนองที่แตกต่างกันด้วย
- เพื่อความสมบูรณ์ของใบหน้าจึงอาจต้องมีการทำซ้ำสองถึงสามครั้ง หรือบางคนที่มีความสมบูรณ์ของใบหน้ามากพออยู่แล้ว ก็อาจจะทำแค่ครั้งเดียวจบก็ได้
การเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันหน้าและการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
การเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันหน้า
- เตรียมตัวก่อนทำการฉีดไขมันหน้าก็เหมือนการผ่าตัดทั่วไป
- งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin, Ibuprofen
- งดอาหารเสริมประเภท วิตามินเอ อี ซี สมุนไพร โสม ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา ก่อนรับการรักษา 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อลงได้
- ต้องไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอันตรายจากการผ่าตัด เช่น หัวใจ ความดันสูง ไทรอยด์
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
- ควรงดอาหารเสริมหรือยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน และวิตามินอี
- หากต้องทำการเลเซอร์ในบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ ควรทำก่อนอย่างน้อย 3 วัน เพราะหลังจากฉีดฟิลเลอร์ต้องงดเป็นเวลา 2 อาทิตย์
- งดดื่มแอลกฮอล์ และ กิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกาย cardio เป็นเวลา 24 ชม.ก่อนทำ
การดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันหน้าและการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์
การดูแลหลังฉีดไขมันหน้า
- 24 ชม.แรก งด การนวดหน้า ทาครีม โลชั่น ในวันแรกควรนอนพักผ่อนให้เต็มที่ 8 ชั่วโมง
- เวลานอนพักผ่อนนั้นให้นอนหนอนหมอนสูง 2-3 วัน
- รับประทานยาให้ครบตามคำสั่งของแพทย์
- หลีกเลี่ยงการโดนความเย็นจัดหรือร้อนจัด เช่น ซาวน่า
- งดดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 3–7 วัน
- งดการออกกำลังกายอย่างหนัก
- รีบมาพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ
- ไม่จับหน้าแรงๆหรือนวดหน้า เป็นเวลา 7-10 วัน เพื่อไม่ให้ไขมันที่เราได้ฉีดไขมันหน้าไปนั้นสลายตัว
การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์
- ห้ามนอนราบหลังการฉีดฟิลเลอร์ 3 – 4 ชั่วโมง และช่วง 12 ชั่วโมงแรก ห้ามแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุงทุกชนิด
- ห้ามออกกำลังกายภายใน 48 ชั่วโมงแรก หรือสัมผัสความร้อนด้วยวิธีต่างๆ รวมทั้งห้ามถูหน้าแรงๆ ด้วยเช่นกัน
- ควรดื่มน้ำมากๆ ประมาณวันละ 12 แก้ว เพื่อความชุ่มชื้นและให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุ้มน้ำและฟูขึ้น
- การประคบเย็นอย่างผิดวิธีอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีด เกิดการเคลื่อนและไม่เกาะผิวได้ ควรประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ในบางกรณีเท่านั้น
- ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดอย่างน้อย 2 อาทิตย์
อ่านเพิ่มเติม 7 เคล็ดลับให้ฟิลเลอร์อยู่นาน
สรุป
การ เปรียบเทียบการฉีดไขมันหน้าและการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ เป็นการทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างสารเติมเต็ม 2 ชนิด แต่ไม่ว่าจะเป็นการฉีดเติมเต็มด้วยสารเติมเต็มแบบใด ก็คงต้องให้ความสำคัญคัญกับความสะอาดปลอดภัย และต้องทำโดยแพทย์ที่ชำนาญ ส่วนวิธีไหนเหมาะสมตรงใจกับเราที่สุด เปรียบเทียบการฉีดไขมันหน้าและการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์ ก็ได้จัดมาให้เป็นข้อๆ สามารถเลือกแบบที่ชอบตามความเหมาะสมได้เลย
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic
บทความยอดนิยม
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร
- ฉีดฟิลเลอร์คาง ดีจริงไหม
- ฉีดไขมันหน้าเด็กคืออะไร
- ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์กับหมอขนม