หน้าผากแบนเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ เพราะนอกจากจะทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติแล้ว ยังส่งผลต่อโหงวเฮ้งในแง่ความคิดและสติปัญญาอีกด้วย ฉีดไขมันหน้าผาก จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับการแก้ไขปัญหานี้ในปัจจุบัน โดยการใช้ไขมันจากตัวเราเองมาเติมเต็มให้หน้าผากดูนูนขึ้น มีมิติมากขึ้น และสวยงามตามธรรมชาติ
ในบทความนี้จะมาเจาะลึกเรื่อง ฉีดไขมันหน้าผาก อย่างครบถ้วน ตั้งแต่ข้อดี ข้อเสีย วิธีการทำ ราคา รวมถึงการเปรียบเทียบกับฟิลเลอร์ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล
- ปลอดภัยสูง เพราะเป็นไขมันของเราเอง เนื่องจากใช้ไขมันจากร่างกายของเราเอง จึงไม่มีความเสี่ยงจากการแพ้หรือการปฏิเสธของร่างกาย
- สามารถเติมได้ปริมาณมาก ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่เรามี สามารถเติมเต็มได้มากกว่าฟิลเลอร์
- ประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับการใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมาก ค่าใช้จ่ายจะไม่บานปลายเหมือนการคิดราคาต่อซีซี
| อ่านเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร
- ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์เพียงพอ อาจทำให้ผิวหน้าผากเป็นคลื่นและแก้ไขได้ยาก
- ผลลัพธ์คาดเดายาก ไขมันอาจยุบลงหรือไม่ติดบางส่วน ซึ่งแตกต่างจากฟิลเลอร์ที่สามารถคาดเดาผลได้แม่นยำกว่า
- ต้องมีระยะพักฟื้น ต่างจากฟิลเลอร์ที่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที การฉีดไขมันหน้าผากต้องมีระยะพักฟื้น
-
ตำแหน่งการฉีดที่ต้องระมัดระวัง
บริเวณหน้าผากเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นเลือดขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับจอประสาทตา การฉีดไขมันหน้าผากจึงต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์เฉพาะทาง หากเกิดข้อผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย อาจส่งผลกระทบต่อจอประสาทตาจนถึงขั้นทำให้ตาบอดได้
-
ไม่ควรฉีดไขมันปริมาณมากในครั้งเดียว
การฉีดไขมันปริมาณมากในครั้งเดียวจะทำให้เซลล์ไขมันตาย ส่งผลให้ไขมันที่ฉีดเข้าไปยุบหายเกือบหมด วิธีที่ถูกต้องคือฉีดเซลล์ไขมันปริมาณน้อยแต่กระจายไปทั่วทุกชั้นของผิว เพื่อให้ไขมันมีโอกาสอยู่ได้ถาวรมากขึ้น
- ผู้ที่มีหน้าผากแบนไม่มีมิติ ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ
- ผู้ที่มีริ้วรอย ร่องลึก หรือรอยบุ๋มที่หน้าผาก
- ผู้ที่มีหน้าผากแคบไม่สัมพันธ์กับสัดส่วนอื่นบนใบหน้า
- ผู้ที่ต้องการปรับสัดส่วนหน้าผากให้มีมิติสวยงามมากขึ้น
เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย
หัวข้อเปรียบเทียบ | ฉีดไขมันหน้าผาก | ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก |
---|---|---|
ความปลอดภัย | มีความปลอดภัยสูง | มีความปลอดภัยสูง แต่อาจแพ้ได้ |
ระยะเวลาคงอยู่ | ผลลัพธ์อยู่ได้นาน-ถาวร (60-80%) | 12-24 เดือน |
ผลลัพธ์ | มีความเป็นธรรมชาติ | มีความเป็นธรรมชาติ |
ราคา | ราคาสูง แต่จะประหยัดระยะยาว | ราคาจับต้องได้ แต่จะราคาสูงหากเติมบ่อยๆ |
การพักฟื้น | พักฟื้นนาน 7-14 วัน | ไม่ต้องพักฟื้น |
การปรับแก้ | หากผิดพลาดต้องผ่าตัด | สามารถฉีดสารสลายได้ |
เลือกฉีดไขมันหน้าผาก เมื่อไหร่?
- ปัญหาหน้าผากรุนแรง หน้าผากแบนมากจนต้องใช้ฟิลเลอร์เกิน 5 ซีซี ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายสูงมากและอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ
- ต้องการความคุ้มค่าระยะยาว หากคำนวณแล้วต้องเติมฟิลเลอร์หลายครั้ง ไขมันจะประหยัดกว่าเพราะอยู่ได้นานกว่า
- มีปริมาณไขมันเพียงพอ ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินบริเวณต้นขา หน้าท้อง หรือสะโพก เหมาะกับการดูดไขมันมาใช้
- ต้องการผลลัพธ์ธรรมชาติ ไขมันจะเคลื่อนไหวตามกล้ามเนื้อได้เป็นธรรมชาติกว่าฟิลเลอร์
เลือกฟิลเลอร์หน้าผาก เมื่อไหร่?
- ปัญหาเล็กน้อย หน้าผากแบนไม่มาก ต้องการเติมไม่เกิน 3-4 ซีซี ฟิลเลอร์จะเหมาะสมกว่า
- ต้องการผลทันที เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลทันทีโดยไม่มีระยะพักฟื้น
- ชีวิตยุ่ง ไม่มีเวลาพัก เหมาะกับคนทำงานที่ไม่สามารถหยุดพักฟื้นได้
- ต้องการทดลองก่อน ผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าต้องการรูปร่างแบบไหน สามารถทดลองด้วยฟิลเลอร์ก่อน
บทสรุป
ฉีดไขมันหน้าผากเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน โดยใช้ไขมันจากตัวเราเองซึ่งปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ แม้จะมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ต้องมีระยะพักฟื้นและผลลัพธ์อาจคาดเดายาก แต่ด้วยความปลอดภัยสูงและความคุ้มค่าในระยะยาว ทำให้การฉีดไขมันหน้าผากเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง
สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างใบหน้าอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และคุ้มค่าที่สุด
หากใครที่กำลังพิจารณาการฉีดไขมันหน้าผาก ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับสภาพใบหน้าเป็นรายบุคคลนะคะ
หมอคะ ฉีดไขมันหน้าผาก กับ ขมับ ส่งผลให้ใต้ตาบวมได้ไหมคะ แล้วมันจะลดลงไหม หรือต้องแก้ยังไงคะ พอดีมันบวมข้างเดียวคะ
ขอบคุณคะ
สามารถบวมได้ในช่วงแรกค่ะ แต่หลังจากนั้นอาการบวมต้องดีขึ้น ถ้าไม่ยุบลง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่ทำให้นะคะ อาจใช้วิธีการนวด RF เผื่อให้ยุบลงค่ะ