การเสริมสะโพกเป็นอีกหนึ่งหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาสะโพกบุ๋ม Hip Dips หรือการเพิ่มความอวบอิ่มให้กับสะโพก สำหรับใครที่กำลังพิจารณาระหว่าง ฟิลเลอร์สะโพก vs ฉีดไขมัน บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบทั้งสองวิธีอย่างครบถ้วน ตั้งแต่หลักการทำงาน ข้อดี-ข้อเสีย ราคา ความปลอดภัย และความคงทนของผลลัพธ์ เพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพร่างกายของตัวเองได้อย่างมั่นใจ
ฟิลเลอร์สะโพก
ฟิลเลอร์สะโพกเป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) เข้าสู่บริเวณสะโพก ปัจจุบันมีเพียงยี่ห้อ Variofill เท่านั้นที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาไทย สำหรับการฉีดในบริเวณสะโพกโดยเฉพาะ โดยมีความเข้มข้นสูงถึง 33 mg/ml เพื่อให้ทนต่อแรงกดทับได้ดี
| อ่านเพิ่มเติม โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์สะโพก
การฉีดไขมันสะโพก
การฉีดไขมันสะโพกเป็นการนำเซลล์ไขมันจากร่างกายของผู้รับการรักษาเอง โดยดูดมาจากบริเวณต้นขา ต้นแขน หน้าท้อง หรือสะโพก ผ่านกระบวนการแยกและทำความสะอาด แล้วนำมาฉีดเติมเต็มในบริเวณสะโพกที่ต้องการ
| อ่านเพิ่มเติม ฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting)
ฟิลเลอร์สะโพก
ข้อดีของฟิลเลอร์สะโพก
- เห็นผลทันทีหลังฉีด ไม่ต้องรอให้เข้าที่นาน
- ระยะเวลาหัตถการสั้น ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีเท่านั้น
- ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เลย
- ปรับแก้ได้ง่าย หากไม่พอใจสามารถฉีดสลายหรือปรับเพิ่มได้
- ไม่มีแผลจากการดูดไขมัน ลดความเสี่ยงจากหลายจุดบาดแผล
ข้อเสียของฟิลเลอร์สะโพก
- ราคาสูงมาก ต้องใช้ปริมาณ 20-60 CC ราคาหลักแสนบาท
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร อยู่ได้เพียง 1-2 ปี ต้องฉีดซ้ำ
- ความเสี่ยงสูง หากฉีดผิดตำแหน่งอาจโดนเส้นประสาทได้
- ไม่เหมาะกับการเติมปริมาณมาก มีข้อจำกัดในการปรับขนาด
ฉีดไขมันสะโพก
ข้อดีของการฉีดไขมันสะโพก
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ เพราะใช้เนื้อเยื่อของตัวเอง
- ความคงทนสูง ไขมันที่ติดแล้วอยู่ได้ 3-5 ปี หรือถึง 10 ปี
- ราคาถูกกว่า เพราะใช้ไขมันตัวเองไม่ต้องซื้อสารสังเคราะห์
- ได้ผลพลอยได้ คือการลดไขมันจากจุดที่ดูด
- ความเสี่ยงการแพ้ต่ำ เพราะเป็นเนื้อเยื่อตัวเอง
ข้อเสียของการฉีดไขมันสะโพก
- ใช้เวลานาน ต้องดูดไขมันก่อน รวมเวลา 2-3 ชั่วโมง
- ระยะฟื้นตัวนานกว่า ประมาณ 1-2 สัปดาห์
- ผลลัพธ์ไม่แน่นอน ไขมันอาจสลาย 30-50% ในช่วงแรก
- ต้องมีไขมันเพียงพอ ไม่เหมาะกับคนผอมมาก
- เสี่ยงผิวเป็นคลื่น หากไขมันสลายไม่สม่ำเสมอ
หัตถการ | ฟิลเลอร์สะโพก | ฉีดไขมันสะโพก |
---|---|---|
ราคาครั้งแรก | ประมาณ 60,000-150,000 บาท | ประมาณ 40,000-80,000 บาท |
ความคงทน | อยู่ได้นาน 2 ปี | อยู่ได้นาน 3-10 ปี |
ต้องทำซ้ำ | ทุกๆ 2 ปี | อาจไม่ต้อง หรือ 5-10 ปี |
ค่าใช้จ่าย 10 ปี โดยเฉลี่ย | 300,000-750,000 บาท | 40,000-160,000 บาท |
จากตารางจะเห็นว่า แม้ฟิลเลอร์สะโพก vs ฉีดไขมัน ในแง่ราคาครั้งแรกอาจใกล้เคียงกัน แต่ในระยะยาวการฉีดไขมันจะคุ้มค่ากว่ามาก *ราคาเป็นเพียงการประมาณการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉาะทางโดยตรง
ความเสี่ยงจากฟิลเลอร์สะโพก
- เส้นประสาทใหญ่ บริเวณสะโพกมี Sciatic Nerve ที่อันตราย
- ฟิลเลอร์ปลอม หากไม่ใช้ของแท้อาจเกิดปัญหารุนแรง
- การย้อยเป็นก้อน หากใช้ปริมาณมากเกินไป
- ราคาแพงแต่ไม่ถาวร ต้องเสี่ยงซ้ำบ่อยครั้ง
ความเสี่ยงจากการฉีดไขมัน
- การติดเชื้อ จากมีแผลหลายจุด (ดูดและฉีด)
- ไขมันไม่ติด อาจต้องทำซ้ำหากผลไม่เป็นไปตามต้องการ
- การสลายไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผิวขรุขระ
- ต้องการความเชี่ยวชาญสูง ในการดูดและฉีดไขมัน
ใครบ้างที่เหมาะกับฟิลเลอร์สะโพก
- ต้องการผลลัพธ์ทันที
- ไม่อยากมีแผลจากการดูดไขมัน
- มีงบประมาณสูงและพร้อมทำซ้ำ
- ต้องการปรับเพียงเล็กน้อย
- ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน
ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดไขมัน
- ต้องการผลลัพธ์ถาวร
- มีไขมันเพียงพอสำหรับดูด
- ต้องการความเป็นธรรมชาติ
- งบประมาณจำกัดในระยะยาว
- ต้องการเพิ่มปริมาณมาก
บทสรุป
การเปรียบเทียบฟิลเลอร์สะโพก vs ฉีดไขมัน ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดแน่นอน ขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ของแต่ละบุคคล หากต้องการความสะดวก รวดเร็ว และผลลัพธ์ทันที ฟิลเลอร์อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากมองในระยะยาว ต้องการความคุ้มค่า และผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ การฉีดไขมันน่าจะเหมาะสมกว่า
สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ไม่ว่าจะเลือกวิธีใดก็ตาม ควรปรึกษาอย่างละเอียด ศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน และตัดสินใจด้วยความรอบคอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและตรงตามความต้องการมากที่สุด