ฉีดฟิลเลอร์จมูก vs เสริมจมูก | เปรียบเทียบจุดเด่นก่อนตัดสินใจทำ

ฉีดฟิลเลอร์จมูก vs เสริมจมูก

จมูกโด่งเป็นสันสวย เป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา แต่เมื่อต้องเลือกระหว่าง ฉีดฟิลเลอร์จมูก vs เสริมจมูก หลายคนอาจสับสนว่าควรเลือกวิธีไหนดี เพราะทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล งบประมาณ และระยะเวลาที่สามารถใช้ในการพักฟื้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับทั้งสองวิธีอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ว่าวิธีไหนเหมาะมากกว่าค่ะ

ทำความรู้จักกับ ฉีดฟิลเลอร์จมูก vs เสริมจมูก

 
ทำความรู้จักกับ ฉีดฟิลเลอร์จมูก vs เสริมจมูก
  • ฟิลเลอร์จมูกคืออะไร?

ฟิลเลอร์จมูกเป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ใต้ผิวหนังบริเวณจมูก เพื่อปรับโครงจมูก สร้างสันจมูก หรือปรับทรงปลายจมูก โดยสารที่ใช้ส่วนใหญ่คือ “กรดไฮยาลูรอนิค” (Hyaluronic acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในผิวเราอยู่แล้ว ทำให้มีความปลอดภัยสูง เสี่ยงแพ้น้อย และสลายได้เองตามธรรมชาติภายในระยะเวลาประมาณ 6-18 เดือน

การฉีดฟิลเลอร์จมูกเป็นที่นิยมเพราะเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาทำน้อย (ประมาณ 15-30 นาที) และฟื้นตัวเร็ว สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด

  • การผ่าตัดเสริมจมูกคืออะไร?

การผ่าตัดเสริมจมูกเป็นการปรับโครงสร้างจมูกโดยการผ่าตัดใส่วัสดุทางการแพทย์เข้าไปบริเวณสันจมูก วัสดุที่นิยมใช้ได้แก่ ซิลิโคน (Silicone) หรือกระดูกอ่อนจากร่างกายผู้เข้ารับการรักษาเอง การผ่าตัดเสริมจมูกให้ผลลัพธ์ที่ถาวรและสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างจมูกได้มากกว่า แต่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่า (ประมาณ 1-2 สัปดาห์) และมีความเสี่ยงจากการผ่าตัดที่สูงกว่า

เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย ฉีดฟิลเลอร์จมูก vs ผ่าตัดเสริมจมูก

ปัจจัยฉีดฟิลเลอร์จมูกเสริมจมูก
ประสิทธิภาพในการปรับทรงจมูกปรับทรงได้น้อย แต่ดูเป็นธรรมชาติสามารถปรับทรงได้มากกว่า
ความเจ็บปวดเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดเจ็บระบมมากกว่าหลังยาชาหมด
ราคาต่อครั้งถูกกว่า (15,000-30,000 บาท)แพงกว่า (50,000-150,000 บาท)
การคงอยู่อยู่ได้ 6-18 เดือนอยู่ได้ถาวร
เวลาพักฟื้นน้อยมาก (3-7 วัน)นานกว่า (1-2 สัปดาห์)
ระยะเวลาที่จมูกเข้ารูปประมาณ 2 สัปดาห์ประมาณ 6 เดือน
ความเสี่ยงต่ำถึงปานกลางสูงกว่า

ฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับใคร?

ฟิลเลอร์จมูกเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปทรงจมูกเพียงเล็กน้อย หรือต้องการทดลองดูก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมถาวร 

ฟิลเลอร์จมูกเหมาะกับใคร?
  • ผู้ที่มีโครงสร้างจมูกดีอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มความโด่งหรือปรับทรงปลายจมูกเล็กน้อย
  • ผู้ที่กลัวการผ่าตัดหรือไม่ต้องการพักฟื้นนาน
  • ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ทันทีและไม่มีเวลาพักฟื้น
  • ผู้ที่มีจมูกเบี้ยวเล็กน้อยหรือมีฮัมพ์ (Hump) บริเวณสันจมูกที่ต้องการปรับให้เรียบ
  • ผู้ที่ต้องการแก้ไขความไม่สมมาตรของจมูกที่เกิดจากการผ่าตัดก่อนหน้านี้
  • ผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าต้องการทรงจมูกแบบไหนและต้องการทดลองก่อนตัดสินใจ

การผ่าตัดเสริมจมูกเหมาะกับใคร?

การผ่าตัดเสริมจมูกเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจมูกอย่างถาวร

การผ่าตัดเสริมจมูกเหมาะกับใคร?
  • ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนทรงจมูกอย่างมาก หรือจมูกของคุณแบนมากและต้องการให้โด่งชัดเจน
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำ
  • ผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูกที่ส่งผลต่อการหายใจ
  • ผู้ที่มีเวลาพักฟื้นเพียงพอ (อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์)
  • ผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงจากการผ่าตัดและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
  • ผู้ที่มีงบประมาณเพียงพอสำหรับการผ่าตัด

ความเสี่ยงที่ควรรู้ก่อนฉีดจมูกและเสริมจมูก

ความเสี่ยงที่ควรรู้ก่อนฉีดจมูกและเสริมจมูก

ความเสี่ยงของฟิลเลอร์จมูก

แม้ว่าฟิลเลอร์จมูกจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าการผ่าตัด แต่ก็มีความเสี่ยงที่ควรทราบ มีดังนี้

  • ฟิลเลอร์อาจอุดตันเส้นเลือด ในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้เกิดเนื้อตายหรือตาบอดได้ (แม้จะพบได้น้อยมาก ต่ำกว่า 0.08%)
  • การติดเชื้อในบริเวณที่ฉีด
  • อาการแพ้ฟิลเลอร์หรือยาชา
  • ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อข้างเคียง
  • จมูกไม่ขึ้นทรงตามที่ต้องการ

ความเสี่ยงของการผ่าตัดเสริมจมูก

การผ่าตัดเสริมจมูกมีความเสี่ยงที่สูงกว่า ดังนี้

  • การติดเชื้อหลังผ่าตัด
  • แผลเป็นหรือการหายของแผลที่ไม่สมบูรณ์
  • การทะลุของวัสดุเสริมจมูก
  • การเคลื่อนหรือเอียงของวัสดุเสริมจมูก
  • ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
  • ปัญหาการหายใจหลังผ่าตัด
  • ภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ

ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ

  1. ประเมินสภาพจมูก – ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินว่าจมูกของคุณสามารถปรับแต่งให้ได้ตามที่ต้องการด้วยวิธีใด
  2. งบประมาณ – แม้การฉีดฟิลเลอร์จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ต่ำกว่า แต่ต้องทำซ้ำทุก 6-18 เดือน ซึ่งในระยะยาวอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการผ่าตัดครั้งเดียว
  3. เวลาพักฟื้น – หากคุณมีเวลาจำกัดและไม่สามารถหยุดพักเพื่อฟื้นตัวได้นาน การฉีดฟิลเลอร์อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า
  4. เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ – ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
  5. พิจารณาความเสี่ยงที่ยอมรับได้ – ประเมินความเสี่ยงของแต่ละวิธีและตัดสินใจว่าคุณสามารถยอมรับความเสี่ยงใดได้บ้าง

บทสรุป

การเลือกระหว่าง ฉีดฟิลเลอร์จมูก vs เสริมจมูก ขึ้นอยู่กับความต้องการและปัจจัยส่วนบุคคลหลายประการ ฟิลเลอร์จมูกเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ไม่ต้องการผ่าตัด และต้องการฟื้นตัวเร็ว แต่ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ถาวร ในขณะที่การผ่าตัดเสริมจมูกเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจมูกอย่างมาก ต้องการผลลัพธ์ถาวร และสามารถเตรียมตัวรับความเสี่ยงและระยะเวลาพักฟื้นที่มากกว่าได้

ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์สภาพจมูกและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัยนะคะ

CONTACT FOR SPECIAL PRIVILEGES

กดด้านล่างติดเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเเละสิทธิ์อื่นๆ

โทร RWC
line rwc
Facebook rwc
โทร RWC
Facebook rwc
line rwc

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic

ทีมแพทย์ RWC

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า