การฉีดไขมันหน้าผากเป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน เพราะช่วยปรับรูปหน้าผากให้โหนกนูน ดูมีมิติ และสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนลังเลก็คือเรื่อง ฉีดไขมันหน้าผากบวมกี่วัน เพราะต้องการวางแผนการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน วันนี้เราจะมาตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับระยะเวลาการบวมหลังฉีดไขมันหน้าผาก พร้อมแนะนำวิธีดูแลตัวเองให้หายบวมเร็วที่สุด
| อ่านเพิ่มเติม ฉีดไขมันหน้า เติมเต็มและฟื้นฟูผิวด้วยไขมันตัวเอง
การฉีดไขมันหน้าผาก คืออะไร
การฉีดไขมันหน้าผากเป็นหัตถการที่ใช้เซลล์ไขมันจากตัวเองมาเติมเต็มบริเวณหน้าผาก เพื่อแก้ปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากมีร่องลึก หรือต้องการให้หน้าผากมีโหนกนูนตามหลักโหงวเฮ้ง โดยแพทย์จะทำการดูดไขมันจากบริเวณที่มีไขมันสะสม เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก จากนั้นนำมาผ่านกระบวนการปั่นคัดแยกและกรองให้ได้เซลล์ไขมันคุณภาพดี ก่อนฉีดเข้าไปบริเวณหน้าผากในตำแหน่งที่ต้องการ
เซลล์ไขมันที่ใช้เป็นสารเติมเต็มธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อร่างกายมากที่สุด เนื่องจากเป็นเซลล์ของตัวเราเอง จึงไม่มีความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้หรือการต่อต้านของร่างกาย นอกจากนี้เซลล์ไขมันยังเป็นเซลล์ที่มีชีวิต ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและสามารถอยู่ได้ถาวรเมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง
การบวมจากการทำหัตถการ
อาการบวมชนิดนี้เกิดจากการอักเสบปกติหลังทำหัตถการ โดยจะบวมอยู่ประมาณ 7-14 วัน โดยจะบวมมากที่สุดในวันที่ 3-5 หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ หลังจากระยะนี้สามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ โดยที่บริเวณหน้าผากจะดูปกติ
การบวมจากไขมันที่ฉีดเข้าไป
หลังจากระยะแรกที่บวมจากการทำหัตถการ หน้าผากของคนไข้อาจจะรู้สึกเต็ม ๆ บวม ๆ เนื่องจากไขมันที่ฉีดเข้าไป โดยไขมันจะเริ่มคงที่และไม่ยุบลงอีกภายใน 3 เดือน ระหว่างนี้ต้องดูแลตัวเองอย่างดี เพื่อให้ไขมันที่ฉีดติดได้มากที่สุด
ดังนั้น หากถามว่า ฉีดไขมันหน้าผากบวมกี่วัน คำตอบคือจะบวมจากการทำหัตถการประมาณ 7-14 วัน และจะรู้สึกเต็มจากไขมันที่ฉีดเข้าไปจนกว่าจะเข้าที่สมบูรณ์ในเวลา 3 เดือน
- ความชำนาญของแพทย์ในการฉีดไขมัน
- เทคนิคการดูดไขมันที่ไม่ทำลายเซลล์
- วิธีการปั่นคัดแยกและกรองเซลล์ไขมัน
- การฉีดในชั้นผิวที่เหมาะสม
- ปริมาณไขมันที่ฉีดเข้าไป
- เพศและอายุ (ผู้หญิงมักจะบวมมากกว่าผู้ชาย)
- คุณภาพของเซลล์ไขมันแต่ละบุคคล
- การมีโรคประจำตัว
- การดูแลตัวเองหลังทำหัตถการ
- การพักผ่อนและการนอนหลับ
- อุณหภูมิและความชื้นในบรรยากาศ
- การได้รับแรงกระแทกหรือการสั่นสะเทือน
- การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม
- ประคบเย็นอย่างถูกวิธี: ใช้น้ำแข็งหรือเจลเย็นประคบบริเวณหน้าผาก 15-20 นาที ทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อลดการอักเสบและอาการบวม ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- นอนหนุนหัวสูง: ปรับตำแหน่งการนอนให้หัวสูงกว่าระดับหัวใจประมาณ 30-45 องศา เพื่อช่วยระบายน้ำเหลืองและลดการบวม ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- งดการสัมผัสหน้าผาก: หลีกเลี่ยงการนวดหรือสัมผัสบริเวณหน้าผากใน 24 ชั่วโมงแรก
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง: ทานยาแก้อักเสบและยาปฏิชีวนะให้ครบตามคำสั่งแพทย์ในช่วงสัปดาห์แรก
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า: งดการแต่งหน้าและการใช้ครีมบำรุงผิวบริเวณหน้าผาก 2-3 วันในช่วงสัปดาห์แรก
- ดื่มน้ำมาก ๆ: ช่วยระบายของเสียและลดอาการบวม
- งดอาหารหมักดอง: หลีกเลี่ยงอาหารที่มีเกลือและน้ำตาลสูงในช่วง 2 สัปดาห์แรก
- งดการออกกำลังกายหนัก: หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดแรงกระแทกต่อหน้า ในช่วง 1 เดือนแรก
- หลีกเลี่ยงความร้อนจัดและเย็นจัด: งดเข้าซาวน่า สปา หรือสถานที่ที่มีอุณหภูมิสุดโต่ง ในช่วง 1-3 เดือน
- งดการสูบบุหรี่: บุหรี่จะขัดขวางการไหลเวียนเลือดและทำให้ไขมันติดได้ไม่ดี ในช่วง 1-3 เดือน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนและวิตามินเพื่อช่วยให้เซลล์ไขมันติดได้ดี
อาการปกติที่อาจเกิดขึ้น
- อาการบวมและรู้สึกตึงบริเวณหน้าผาก
- รอยช้ำเล็กน้อยจากการฉีด
- ความรู้สึกชาเล็กน้อยในช่วงแรก
- ผิวหน้าดูเต็มกว่าปกติ
สัญญาณเตือนที่ต้องพบแพทย์
- มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส
- บวมมากผิดปกติและไม่ลดลง
- มีหนองหรือของเหลวซึมออกจากแผล
- เจ็บปวดรุนแรงที่ไม่ทุเลาด้วยยาแก้ปวด
- ผิวหนังเปลี่ยนสีผิดปกติ
บทสรุป
ฉีดไขมันหน้าผากบวมกี่วัน เป็นคำถามสำคัญที่ผู้สนใจควรทราบก่อนตัดสินใจทำหัตถการ โดยสรุปแล้วจะบวมจากการทำหัตถการประมาณ 7-14 วัน และจะรู้สึกเต็มจากไขมันที่ฉีดเข้าไปจนกว่าจะเข้าที่สมบูรณ์ในระยะเวลา 3 เดือน การบวมมากน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งจากความชำนาญของแพทย์ เทคนิคที่ใช้ และการดูแลตัวเองหลังทำหัตถการ
การดูแลตัวเองอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยให้หายบวมเร็วขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการประคบเย็น การนอนหนุนหัวสูง การหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่เหมาะสม และการงดกิจกรรมที่อาจส่งผลเสียต่อการติดของไขมัน
หากมีข้อสงสัยหรือพบอาการผิดปกติใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที เพื่อให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสมและปลอดภัย