ฉีดสลายฟิลเลอร์อันตรายไหม ? ผลข้างเคียงที่ต้องรู้ก่อนฉีด

ฉีดสลายฟิลเลอร์อันตรายไหม ? ผลข้างเคียงที่ต้องรู้ก่อนฉีด

การฉีดฟิลเลอร์ได้กลายเป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่เมื่อผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นที่พอใจ หรือเกิดปัญหาต่างๆ หลังการฉีด คำถามที่ตามมาคือ ฉีดสลายฟิลเลอร์อันตรายไหม นี่เป็นข้อสงสัยที่สำคัญมากสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาแก้ไขปัญหาจากการฉีดฟิลเลอร์ เพราะการตัดสินใจที่ถูกต้องจะช่วยให้ได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ในบทความนี้ เราจะมาตอบคำถาม ฉีดสลายฟิลเลอร์อันตรายไหม อย่างละเอียดและครบถ้วน พร้อมทั้งให้ข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความเสี่ยง ผลข้างเคียง และวิธีการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดสลายฟิลเลอร์

ฉีดสลายฟิลเลอร์อันตรายไหม

ฉีดสลายฟิลเลอร์อันตรายไหม คำตอบตรงไปตรงมาคือ การฉีดสลายฟิลเลอร์โดยทั่วไปถือเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัย เมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและในสถานที่ที่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม เหมือนกับหัตถการทางการแพทย์อื่นๆ ก็ยังมีความเสี่ยงและข้อควรระวังที่สำคัญ

ฉีดสลายฟิลเลอร์อันตรายไหม

กลไกการทำงานของการสลายฟิลเลอร์

การฉีดสลายฟิลเลอร์ใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่พบตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ เอนไซม์นี้ทำหน้าที่ย่อยสลายกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid) ที่เป็นส่วนประกอบหลักของฟิลเลอร์ชนิด HA ให้กลายเป็นโมเลกุลที่เล็กลง จนสามารถถูกขับออกจากร่างกายได้อย่างปลอดภัย

ระดับความปลอดภัย

จากการศึกษาทางการแพทย์และประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พบว่าการฉีดสลายฟิลเลอร์มีอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่ำมาก โดยส่วนใหญ่ผลข้างเคียงที่พบจะเป็นอาการเล็กน้อย เช่น บวม แดง หรือคันเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปได้เองภายใน 1-2 วัน

ข้อจำกัดสำคัญ

สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ การฉีดสลายฟิลเลอร์ใช้ได้เฉพาะกับฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid (HA) เท่านั้น หากเป็นฟิลเลอร์ชนิดอื่น เช่น ซิลิโคน หรือฟิลเลอร์กึ่งถาวร การฉีดสลายจะไม่ได้ผล และอาจต้องใช้วิธีการอื่น เช่น การผ่าตัดขูดออก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่ามาก

สาเหตุที่อาจทำให้ฉีดสลายฟิลเลอร์เป็นอันตราย

แม้ว่า ฉีดสลายฟิลเลอร์อันตรายไหม จะมีคำตอบว่าโดยทั่วไปปลอดภัย แต่ก็มีหลายปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับหัตถการนี้

สาเหตุที่อาจทำให้ฉีดสลายฟิลเลอร์เป็นอันตราย

แพทย์ไม่มีประสบการณ์หรือไม่เชี่ยวชาญ

สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้การฉีดสลายฟิลเลอร์กลายเป็นอันตรายคือการทำโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์หรือไม่เชี่ยวชาญ การคำนวณปริมาณเอนไซม์ที่เหมาะสม การเลือกจุดฉีดที่ถูกต้อง และการประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วยแต่ละราย ล้วนต้องอาศัยความรู้ทักษะ และประสบการณ์สูง

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสที่ไม่ได้รับการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง หรือมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจมีความบริสุทธิ์ไม่เพียงพอ มีสารปนเปื้อน หรือไม่ได้รับการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดการแพ้ การติดเชื้อ หรือผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิด

สถานที่ให้บริการไม่ได้มาตรฐาน

คลินิกหรือสถานที่ที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย ไม่มีระบบการฆ่าเชื้อที่เหมาะสม หรือไม่มีอุปกรณ์ฉุกเฉินเมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที

การฉีดปริมาณมากเกินไป

การใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น ไม่เพียงแต่จะสลายฟิลเลอร์ที่ต้องการกำจัดเท่านั้น แต่อาจไปสลายกรดไฮยาลูโรนิคธรรมชาติในผิวหนัง ทำให้ผิวแห้ง หย่อนคล้อย และเหี่ยวย่นได้

| อ่านเพิ่มเติม ฉีดสลายฟิลเลอร์ แก้ไขปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน ไม่สวย

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดสลายฟิลเลอร์

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยแบ่งออกเป็นผลข้างเคียงเล็กน้อยและผลข้างเคียงร้ายแรง

สาเหตุที่อาจทำให้ฉีดสลายฟิลเลอร์เป็นอันตราย

ผลข้างเคียงเล็กน้อย (พบบ่อย)

  • อาการบวม แดง และเจ็บ บริเวณที่ฉีด เป็นปฏิกิริยาการอักเสบชั่วคราวที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ อาการเหล่านี้มักจะเริ่มปรากฏภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการฉีด และจะค่อยๆ ลดลงภายใน 24-48 ชั่วโมง
  • รอยช้ำหรือจ้ำเลือด อาจเกิดจากการที่เข็มฉีดไปกระทบเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ใต้ผิวหนัง โดยปกติจะหายไปเองภายใน 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดและความลึกของรอยช้ำ
  • อาการคันเล็กน้อย เกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันต่อสารที่ฉีดเข้าไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติและจะหายไปเองใน 1-2 วัน

ผลข้างเคียงปานกลาง

  • ปฏิกิริยาแพ้ (Allergic Reaction) บางคนอาจมีภูมิแพ้ต่อเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส แสดงอาการเป็นผื่นแดง ลมพิษ อาการคันมาก หรือบวมผิดปกติ หากเกิดอาการเหล่านี้ต้องรีบรักษาด้วยยาแก้แพ้
  • การสลายฟิลเลอร์มากเกินไป หากใช้เอนไซม์ในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายมากกว่าที่ต้องการ ส่งผลให้บริเวณนั้นยุบตัวมากเกินไป ดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • การติดเชื้อ แม้จะพบได้น้อยมาก แต่หากเกิดขึ้นจะต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

ผลข้างเคียงร้ายแรง (พบน้อยมาก)

  • ภาวะอนาฟิแล็กซิส (Anaphylaxis) เป็นปฏิกิริยาแพ้รุนแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต แสดงอาการเป็นหายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตลด ผื่นแดงลามไปทั่วร่างกาย ต้องได้รับการรักษาฉุกเฉินทันที
  • ความเสียหายต่อเนื้อเยื่อ หากฉีดผิดตำแหน่งหรือเข้าไปในเส้นเลือดโดยไม่ได้ตั้งใจ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาท เส้นเลือด หรือเนื้อเยื่อโดยรอบ
  • การสลายกรดไฮยาลูโรนิคธรรมชาติ การใช้เอนไซม์ในปริมาณมากเกินไป อาจไปสลายกรดไฮยาลูโรนิคที่มีอยู่ตามธรรมชาติในผิวหนัง ทำให้ผิวแห้ง แกร่ง และเสียความยืดหยุ่น

วิธีลดความเสี่ยงและฉีดสลายฟิลเลอร์อย่างปลอดภัย

วิธีลดความเสี่ยงและฉีดสลายฟิลเลอร์อย่างปลอดภัย

การเลือกแพทย์และคลินิก

  • ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพ แพทย์ที่ทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ต้องเป็นแพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมถูกต้อง และมีความเชี่ยวชาญด้านตรรกศาสตร์หรือศัลยกรรมความงาม
  • ประสบการณ์และผลงาน เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดสลายฟิลเลอร์มาเป็นเวลานาน และมีผลงานที่ตรวจสอบได้ สามารถขอดูภาพก่อน-หลังของผู้เข้ารับบริการจริง
  • คลินิกมีมาตรฐาน เลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย มีระบบการฆ่าเชื้อที่เหมาะสม และมีอุปกรณ์ฉุกเฉินพร้อมใช้

การเตรียมตัวก่อนฉีด

  • การซักประวัติที่ละเอียด ให้ข้อมูลประวัติสุขภาพ การแพ้ยา โรคประจำตัว และยาที่ใช้อยู่อย่างครบถ้วน เพื่อให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงได้อย่างถูกต้อง
  • การหยุดยาบางชนิด หยุดยาที่เพิ่มความเสี่ยงของการเลือดออก เช่น แอสไพริน วิตามินอี หรือยาสมุนไพรบางชนิด ตามคำแนะนำของแพทย์
  • การทดสอบแพ้ ในบางกรณี แพทย์อาจทำการทดสอบแพ้ด้วยการฉีดเอนไซม์ปริมาณเล็กน้อยในบริเวณที่ไม่เด่นชัด เพื่อดูปฏิกิริยาก่อนฉีดในปริมาณเต็ม

ระหว่างการฉีด

  • การใช้เทคนิคที่ถูกต้อง แพทย์ต้องใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง คำนวณปริมาณเอนไซม์ที่เหมาะสม และฉีดในระดับความลึกที่ถูกต้อง
  • การใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ ใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสที่ผ่านการรับรองคุณภาพและมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เก็บรักษาอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน
  • การเฝ้าระวังอาการแพ้ ระหว่างและหลังการฉีด แพทย์และทีมงานต้องเฝ้าระวังอาการแพ้หรือภาวะแทรกซ้อนอย่างใกล้ชิด

การดูแลหลังการฉีด

  • การประคบเย็น ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดเป็นระยะๆ เพื่อลดการบวมและอาการอักเสบ
  • การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยง หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การอาบน้ำร้อน หรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนมากในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
  • การติดตามอาการ เฝ้าสังเกตอาการผิดปกติ เช่น บวมมาก ปวดมาก มีไข้ หรือผื่นแดงลามกว้าง หากมีอาการเหล่านี้ต้องรีบพบแพทย์ทันที

สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์

สิ่งสำคัญหลังฉีดสลายฟิลเลอร์ คือต้องรู้จักสัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น

สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบพบแพทย์

อาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis)

อาการที่ต้องระวัง

  • หายใจลำบาก หายใจหอบ หรือรู้สึกแน่นหน้าอก
  • ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
  • ความดันโลหิตลดลง รู้สึกเวียนศีรษะ หรือเป็นลม
  • ผื่นแดงลามไปทั่วร่างกาย ลมพิษขนาดใหญ่
  • คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
  • บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก หรือลิ้น

หากมีอาการเหล่านี้ ต้องรีบไปโรงพยาบาลฉุกเฉินทันที เนื่องจากอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

อาการติดเชื้อ

สัญญาณที่ต้องสังเกต

  • มีไข้สูง (38 องศาเซลเซียสขึ้นไป)
  • บริเวณที่ฉีดมีหนองหรือของเหลวสีเหลือง
  • ผิวหนังแดงลามออกไปจากจุดที่ฉีด
  • ปวดหรือเจ็บเพิ่มมากขึ้นแทนที่จะดีขึ้น
  • กลิ่นเหม็นผิดปกติจากบาดแผล
  • ต่อมน้ำเหลืองบวม (โดยเฉพาะบริเวณคอ ใต้คาง หรือรักแร้)

การติดเชื้อต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอย่างเร่งด่วน หากปล่อยไว้อาจแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย

อาการผิดปกติของการไหลเวียนโลหิต

สัญญาณอันตราย

  • ผิวหนังเปลี่ยนสีเป็นขาว เย็น หรือชาบริเวณที่ฉีด
  • ปวดรุนแรงที่เกิดขึ้นทันทีหลังฉีด
  • ผิวหนังเป็นสีคล้ำหรือดำ (เนื้อเยื่อตาย)
  • บวมมากผิดปกติและไม่ลดลง

บทสรุป

การ ฉีดสลายฟิลเลอร์อันตรายไหม แน่นอนว่าการฉีดสลายฟิลเลอร์โดยทั่วไปเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ และปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด

ความเสี่ยงหลักมาจากปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ เช่น การเลือกแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ การใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน หรือการไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการฉีด ส่วนใหญ่ผลข้างเคียงที่พบจะเป็นอาการเล็กน้อย เช่น บวม แดง คัน ซึ่งหายได้เองใน 1-2 วัน

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจต้องเข้าใจว่า ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะสมกับการฉีดสลายฟิลเลอร์ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติแพ้ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการซักประวัติอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งสำคัญ

หากตัดสินใจฉีดสลายฟิลเลอร์ ให้เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด หากมีอาการผิดปกติใดๆ หลังการฉีด ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจร้ายแรงตามมาด้วยนะคะ

CONTACT FOR SPECIAL PRIVILEGES

กดด้านล่างติดเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเเละสิทธิ์อื่นๆ

โทร RWC
line rwc
Facebook rwc
โทร RWC
Facebook rwc
line rwc

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic

ทีมแพทย์ RWC

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า