โบท็อก (Botox) ก่อนฉีดต้องอ่าน
โบท็อก (Botox) Q&A

โบท็อก (Botox) คืออะไร? รวมคำถามที่พบบ่อย ก่อนฉีดต้องอ่าน

ในปัจจุบันการฉีด โบท็อก (Botox) ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เพราะโบท็อก หรือ Toxin botulinum type A สามารถช่วยลดริ้วรอยและรักษาอาการต่าง ๆ ได้

แต่ในข้อดีของการฉีดโบท็อก ก็ยังมีข้อเสียบางอย่างที่ผู้เข้ารับบริการต้องพึงระวัง ในบทความนี้ จึงจะมารวบรวม FAQ คำถามที่พบบ่อย สำหรับการฉีดโบท็อกซ์ให้แก่ผู้ที่กำลังสนใจค่ะ

สาร Botulinum Toxin
สารบัญ โบท็อก (Botox)

โบท็อก (Botox) คืออะไร

โบท็อก (Botox) คืออะไร

โบท็อก เป็นชื่อที่หลายคนคงจะเคยได้ยินกัน คือ Botox ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของบริษัทที่ผลิตเจ้าแรก แต่จริง ๆ แล้วคือตัวยาที่ชื่อว่า Botulinum Toxin type A เป็นโปรตีนที่สกัดได้จากการสร้างของแบคทีเรีย “คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม” (Clostridium botulinum) ถ้าได้รับมากเกินไปจะทำให้อาหารเป็นพิษหรือเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ แต่หากรับในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวอันเป็นผลดีกับวงการแพทย์

เดิมทีวงการแพทย์ได้นำสารนี้มาใช้ฉีดในการรักษาโรคตาเหล่ ตาเข และพัฒนาต่อมาใช้ในวงการเสริมความงาม เพื่อช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ และทำให้ผิวหน้าดูกระชับขึ้น

โบท็อกช่วยเรื่องอะไร? ฉีดตรงไหนได้บ้าง

โบท็อกช่วยเรื่องอะไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง

โบท็อกซ์ (Botox) สารที่สกัดจากเชื้อแบคทีเรีย Clostridium botulinum ที่ใช้ในทางการแพทย์และความงามเพื่อช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว สามารถฉีดได้หลายบริเวณเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ดังนี้

  • โบท็อกซ์ลดริ้วรอย
โบท็อกซ์ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ จะช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าโดยการลดการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่น สามารถฉีดได้บริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว รอบดวงตา (รอยตีนกา) และช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น

  • โบท็อกซ์ลดกราม หน้าเรียว
โบท็อกซ์ลดกราม หน้าเรียว

การฉีดโบท็อกซ์ที่กล้ามเนื้อขากรรไกร (masseter muscle) ช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อ ทำให้กรามเล็กลงและใบหน้าดูเรียวขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้ากว้างหรือกรามใหญ่ ส่งผลใบหน้าที่ดูเพรียวและมีรูปหน้ามีความสีเชฟมากขึ้น

  • โบท็อกซ์ลิฟท์หน้า
โบท็อกซ์ลิฟท์หน้า

การฉีดโบท็อกซ์แบบลิฟท์หน้า จะช่วยยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยจะทำการฉีดบริเวณขมับ แก้ม และคาง ช่วยยกผิวหนังที่หย่อนคล้อย ลดเส้นริ้วรอย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และดูกระชับขึ้น และให้ผลลัพธ์การยกกระชับที่เป็นธรรมชาติ

  • โบท็อกซ์ลดเหงื่อ รักแร้
โบท็อกซ์ลดเหงื่อ รักแร้

โบท็อกซ์สามารถใช้รักษาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ หรือที่เรียกว่า Hyperhidrosis โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ ซึ่งการฉีดสาร Botulinum Toxin จะช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อ ลดการผลิตเหงื่อในบริเวณนั้น ๆ ช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกมั่นใจและสบายตัวมากขึ้น

  • โบท็อกซ์ลดน่อง
โบท็อกซ์ลดน่อง

การฉีดโบท็อกซ์ที่กล้ามเนื้อน่องจะช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อ ทำให้น่องเล็กลงและมีรูปทรงที่เพรียวขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีน่องใหญ่และต้องการปรับรูปทรงขาให้ดูเรียวยาวและสมส่วนมากขึ้น

  • โบท็อกซ์ปรับรูปทรงจมูก
โบท็อกซ์ปรับรูปทรงจมูก

การฉีดโบท็อกบริเวณปลายจมูกสามารถช่วยยกปลายจมูกให้สูงขึ้นเล็กน้อย และลดการหดตัวของกล้ามเนื้อปลายจมูกเวลายิ้ม ช่วยให้จมูกดูโด่งขึ้นและมีรูปทรงที่สวยงามมากขึ้น เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องผ่าตัดแต่ต้องการปรับรูปทรงจมูกเพียงเล็กน้อย

การทำงานของโบท็อกหลังฉีด

การทำงานของโบท็อกหลังฉีด

โบท็อกมีกระบวนการออกฤทธิ์หลังฉีด คือ ตัวยาจะจับกับปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว ส่งผลให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อส่วนที่ฉีด กล้ามเนื้อผ่อนคลายลง ริ้วรอยต่าง ๆ จะลดลง เนียนเรียบขึ้นจากเดิม แถมช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยใหม่อีกด้วย

ส่วนของโบท็อกที่ไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่เซลล์ประสาทนั้น จะถูกย่อยสลายโดยเอนไซม์และขับออกจากร่างกายทางไตและปัสสาวะ  ไม่มีผลใด ๆ ต่ออวัยวะอื่นและไม่เป็นอันตราย

ฉีดโบท็อกดีไหม? เหมาะกับใคร

ฉีดโบท็อกดีไหม เหมาะกับใคร

การฉีด Botox มีคุณสมบัติที่หลากหลายทั้งทางด้านความงามและด้านสุขภาพ ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกของหลายกลุ่มปัญหา Botox เหมาะกับใครบ้าง ดังนี้

  • ผู้ที่ต้องการลดรอยย่นบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว
  • ผู้ที่ต้องการลดรอยตีนกา
  • ผู้ที่ต้องการปรับยกคิ้ว
  • ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบริเวณสันจมูก
  • ผู้ที่ต้องการปรับยกมุมปาก
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้กระชับขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการลดภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ รักแร้เปียก กลิ่นตัวแรง
  • ผู้ที่ต้องการลดขนาดของกล้ามเนื้อน่องขา ปรับขาให้เรียวสวย
  • ผู้ที่ต้องการ เพื่อแก้ปัญหาอื่น ๆ ทางการแพทย์

ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน?

ฉีดโบท็อก กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน

สำหรับผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อก จะไม่ได้อยู่อย่างถาวร โดยปกติแล้วฉีด 1 ครั้งจะอยู่ได้นาน 4-8 เดือน (แล้วแต่บุคคล) โดยอายุการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์นั้น ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้

  1. ยี่ห้อที่ฉีด หากเลือกฉีดยี่ห้อที่มีความบริสุทธิ์สูง จะอยู่ในร่างกายได้นานกว่า เพราะร่างกายจะทำลายโปรตีนที่จับกับโบท็อก โดยโบท็อกที่มีโปรตีนมากกว่าจะถูกทำลายได้ง่ายกว่าโบท็อกที่มีโปรตีนสูง
  2. ตำแหน่งที่ฉีด เช่น แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมาก ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงกลับมาใช้งานได้เร็ว ระยะเวลาที่โบท๊อกออกฤทธิ์จึงสั้นกว่า กล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น กราม หน้าผาก หางตา

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณโบท็อกที่ใช้ ซึ่งต้องอยู่ในการประเมินโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์นะคะ

ยี่ห้อโบท็อก ยี่ห้อไหนดี?

ยี่ห้อโบท็อก ยี่ห้อไหนดี

ปัจจุบันโบท็อกมีอยู่ด้วยกันหลายยี่ห้อ ซึ่งจะมีความแตกต่างกัน ตั้งแต่บริษัทที่ผลิต ประเทศที่ผลิต เช่น ประเทศเกาหลี ประเทศเยอรมัน ประเทศอังกฤษ รวมไปถึงความบริสุทธิ์ของตัวยา เป้นต้น ซึ่งยี่ห้อโบท็อกที่นิยมฉีดในประเทศไทย และความแตกต่างในแต่ละยี่ห้อ มีดังนี้

1. Allergan (โบท็อกซ์อเมริกา)

Allergan (โบท็อกซ์อเมริกา)

ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นโบท็อกตัวดั้งเดิมที่ผลิตมายาวนาน มีงานวิจัยรองรับจำนวนมาก และผ่านการพัฒนาให้มีโอกาสของการดื้อยาน้อยที่สุด Allergan มีความกระจายตัวแคบ ทำให้ควบคุมการฉีดได้แม่นยำและตรงจุด

2. Dysport (โบท็อกซ์อังกฤษ)

Dysport (โบท็อกซ์อังกฤษ)

ผลิตในประเทศอังกฤษ โดยมีจุดเด่นคือ โบท็อกสามารถกระจายตัวได้ดี เหมาะสำหรับใช้ฉีดในบริเวณกว้าง เช่น ฉีดลดเหงื่อ ลดต้นแขน ลดน่องปูด

3. Xeomin (โบท็อกซ์เยอรมัน)

ผลิตในประเทศเยอรมนี มีจุดเด่นคือ มีการนำสารโปรตีนขนาดใหญ่ตัวอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นออก ทำให้เหลือเฉพาะสาร Botulinum Toxin type A ที่บริสุทธิ์ และเป็นโมเลกุลเล็ก เมื่อฉีดแล้วจะไม่กระจุกตัวแคบเกินไป และมักได้ผลดีแม้ในกรณีที่ดื้อยา แต่ผู้เข้ารับบริการจะต้องหยุดการฉีดโบท็อก อย่างน้อย 2-3 ปี และราคาของยี่ห้อนี้จะค่อนข้างสูง

4. Neuronox (โบท็อกซ์เกาหลี)

Neuronox (โบท็อกซ์เกาหลี)

ผลิตในประเทศเกาหลี คุณสมบัติค่อนข้างใกล้เคียงกับยี่ห้อ Allergan คือ มีการกระจายตัวของตัวยา ค่อนข้างแม่นยำใกล้เคียงกัน แต่จะมีราคาที่ถูกกว่า

5. Botulax (โบท็อกซ์เกาหลี)

Botulax (โบท็อกซ์เกาหลี)

ผลิตในประเทศเกาหลี จุดเด่นคือ ตัวยาออกฤทธิ์เห็นผลค่อนข้างไว ราคาประหยัด แต่ข้อเสียคือ สลายตัวเร็ว ไม่ค่อยคงทนยาวนานมากนัก

6. Nabota (โบท็อกซ์เกาหลี)

Nabota (โบท็อกซ์เกาหลี)

ผลิตในประเทศเกาหลี จัดเป็นอีก 1 ยี่ห้อโบท็อกพรีเมียม มีสาร Botulinum Toxin type A ที่บริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์เร็ว เน้นใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยที่หน้าผาก หางตา ปรับรูปหน้า ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามดูเล็กลง

จากที่กล่าวมา ทุกยี่ห้อได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทยแล้ว แต่ผู้เข้ารับบริการก็ยังต้องระมัดระวังผลิตภัณฑ์ปลอมที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป เพราะสารในผลิตภัณฑ์ โบท็อกซ์ปลอม อาจส่งผลข้างเคียงร้ายแรงและทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพค่ะ

โปรแกรมฉีดโบท็อก ราคาเท่าไหร่?

โปรแกรมฉีดโบท็อก ราคาเท่าไหร่

ราคาของโปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ อาจแตกต่างกันไปตามสถานที่ให้บริการ ปริมาณที่ใช้ และบริเวณที่ฉีด โดยทั่วไปราคามักอยู่ในช่วงประมาณ 5,000 – 30,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับจำนวนจุดที่ฉีด

ซึ่งราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกหรือโรงพยาบาล ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อน เพื่อประเมินความเหมาะสมและค่าใช้จ่ายที่แน่นอนสำหรับแต่ละบุคคล นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงคุณภาพและความปลอดภัยมากกว่าราคาที่ถูกที่สุดเพียงอย่างเดียว

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก

ก่อนเข้ารับบริการ จำเป็นจะต้องเข้าพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจผิวหนังและปรึกษาเกี่ยวกับบริเวณที่จะฉีดก่อนทุกครั้้ง และการเตรียมตวก่อนฉีด มีอะไรบ้าง ดังนี้

  • งดรับประทานยา หรือวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น ยาแอสไพริน (Aspirin) ยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-SteroidalAnti-Inflammatory Drugs: NSAIDs) ยาวาร์ฟาริน (Warfarin) วิตามินซี น้ำมันตับปลา และแปะก๊วย
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  • งดรับประทานอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
  • งดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด

และในกรณีมีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โรคเลือดออกง่าย หรือกำลังตั้งครรภ์และให้นมบุตร หรือมีประวัติการแพ้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดรักษาด้วยโบท็อกนะคะ

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก

หลังจากการฉีดโบท็อกแล้ว ผู้เข้ารับบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่ดี และตัวยาคงอยู่ได้นานขึ้น มีดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการนอนราบในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพราะตัวยาอาจไหลไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ ให้นอนหงายหนุนหมอนสูง ในคืนแรกของการรักษา
  • ไม่ประคบร้อนและระวังอย่าให้ลมร้อนจากไดร์เป่าผมไปเป่าบริเวณที่เพิ่งฉีด เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • ไม่นวด กด บีบ คลึง บริเวณที่เพิ่งทำการ ฉีดโบท็อก มา เป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้ตัวยากระจายไปออกฤทธิ์ยังบริเวณอื่นได้ 
  • หากมีอาการบวมแดงหรือช้ำในช่วง 1-2 วันแรกหลังการ ฉีดโบท็อก ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากเข็มฉีดยา สามารถใช้น้ำแข็งประคบได้
  • ควรไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษา

ฉีดโบท็อก อันตรายไหม? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

ฉีดโบท็อกอันตรายไหม

สำหรับการฉีด Botox นั้นไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถฉีดได้ และบุคคลไม่สามารถฉีดโบท็อกซ์ และควรพึงระวัง มีดังนี้

  • ผู้ที่มีอาการแพ้สาร Botulinum Toxin type A
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
  • ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงรุนแรง
  • ผู้ที่เป็นโรคเลือดออกแล้วหยุดยาก

ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์ที่อาจเกิดขึ้น

ผลข้างเคียงหลังฉีดโบท็อกซ์

โบท็อกซ์ มีข้อดีมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม ในข้อดีของการฉีดโบท็อก รักษาอาการต่าง ๆ ก็ยังมีข้อเสียบางอย่างที่ผู้เข้ารับบริการต้องพึงระวัง เพราะสาร Botulinum Toxin type A นั้น เป็นสารที่เป็นพิษต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ซึ่งหากได้รับมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ หรือทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้

นอกจากนี้ ถ้าฉีดโบท็อกซ์ถี่หรือบ่อยไป ก็อาจทำให้เกิดการดื้อยา ฉีดไปแล้วไม่เห็นผล รวมถึงการฉีดเข้ากล้ามเนื้อบดเคี้ยวผิดตำแหน่งอาจทำให้เกิดปัญหาขากรรไกรค้างได้

เลือกคลินิกฉีดโบท็อก ที่ไหนดี?

ฉีดโบท็อกที่ไหนดี

การเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกฉีดโบท็อกที่ดีและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

  • แพทย์ที่ทำการรักษา: เลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามโดยเฉพาะ มีใบประกอบวิชาชีพและประสบการณ์การฉีดโบท็อกที่น่าเชื่อถือ
  • มาตรฐานและความปลอดภัย: คลินิกควรได้รับการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สะอาดและปลอดภัย
  • ผลิตภัณฑ์ที่ใช้: ตรวจสอบว่าคลินิกใช้สาร Botulinum Toxin แท้ที่ได้รับการรับรองจาก อย. และมีการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง
  • รีวิวผู้เข้ารับบริการ: ศึกษารีวิวจากลูกค้าเก่า และสอบถามประสบการณ์จากคนรู้จักที่เคยใช้บริการ
  • การให้คำปรึกษา: เลือกคลินิกที่ให้คำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนการรักษา อธิบายขั้นตอน ผลข้างเคียง และการดูแลหลังรักษา
  • ราคาที่เหมาะสม: เปรียบเทียบราคากับคุณภาพการบริการ ต้องพึงระวังคลินิกที่เสนอราคาถูกเกินไปซึ่งอาจใช้ผลิตภัณฑ์ปลอมหรือไม่ได้มาตรฐาน
  • สถานที่ตั้งและบรรยากาศ: เลือกคลินิกที่สะอาด มีบรรยากาศน่าเชื่อถือ และสะดวกต่อการเดินทาง
  • บริการหลังการรักษา: ควรมีบริการติดตามผลและดูแลหลังการรักษาที่ดี

ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจเข้ารับการฉีด ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อประเมินปัญหาความเหมาะสมก่อนตัดสินใจรับการรักษา และเลือกคลินิกที่คุณรู้สึกไว้วางใจและสบายใจที่สุด

รีวิวฉีดโบท็อก ที่ RWC Clinic

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) โบท็อก

  • ฉีดโบท็อกซ์สามารถแต่งหน้าได้เลยไหม?

โดยทั่วไปแนะนำให้งดแต่งหน้าอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อกซ์ เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและการเคลื่อนที่ของสารโบท็อกซ์ หลังจากนั้นสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ

  • ฉีดโบท็อกซ์กับฟิลเลอร์ ต่างกันยังไง? ควรแบบไหน?

การทำงานของโบท็อกซ์จะเป็นฉีดเพื่อลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของใบหน้า ส่วนฟิลเลอร์เป็นสารที่เติมเต็มใต้ผิวหนัง ช่วยเพิ่มปริมาตรและแก้ไขร่องลึก การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคน บางครั้งอาจใช้ร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด

  • โบท็อกซ์มีผลต่อการตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรหรือไม่?

ในกรณีนี้ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าโบท็อกซ์ส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์หรือทารกที่กินนมแม่ แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด แพทย์มักแนะนำให้หลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกซ์ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร หากกำลังวางแผนตั้งครรภ์ ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา

  • ฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าจะดูแข็งเป็นหุ่นยนต์ไหม?

การใช้สาร Botulinum Toxin เพื่อเสริมความงาม หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ปริมาณที่เหมาะสม ใบหน้าจะไม่ดูแข็งหรือเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ดีควรทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น โดยยังคงสามารถแสดงอารมณ์ได้ตามปกติ การฉีดที่มากเกินไปหรือไม่ถูกต้องอาจทำให้ฝบหน้าดูแข็งและดูไม่เป็นธรรมชาติ

  • ถ้าฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่ชอบผลลัพธ์ ต้องทำยังไง?

ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์จะค่อย ๆ หายไปเองภายใน 3-6 เดือน หากไม่พอใจกับผลลัพธ์ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา บางกรณีอาจแก้ไขได้โดยการฉีดเพิ่มเติมในบางจุดเพื่อปรับสมดุล หรืออาจต้องรอให้ฤทธิ์ของโบท็อกซ์หมดไปเอง ไม่แนะนำแก้ไขด้วยตัวเองหรือไปรับการรักษาที่คลินิกอื่นโดยไม่ปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษาครั้งแรก

สรุป

การฉีด โบท็อก (Botox) เป็นสารโบทูลินัมที่ถูกทำให้บริสุทธิ์ ใช้ในการรักษาทางการแพทย์และความงาม โดยออกฤทธิ์ยับยั้งการส่งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและลดการหดเกร็ง ประโยชน์หลักของโบท็อกคือการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า โดยเฉพาะรอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา และร่องคิ้ว นอกจากนี้ ยังใช้รักษาอาการเหงื่อออกมากผิดปกติ บรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรน และรักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยโรคสมองพิการ

การฉีดโบท็อก ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยและกำลังมองหาวิธีการดูแลตนเองแบบตรงปัญหา อย่างไรก็ตาม การเลือกแพทย์และสถานพยาบาลเป็นปัจจัยสำคัญในการฉีดโบท็อก ควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์โดยเฉพาะ สถานพยาบาลควรได้รับการรับรองมาตรฐานและมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ผู้สนใจควรตรวจสอบประวัติและผลงานของแพทย์ รวมถึงรีวิวจากผู้ใช้บริการก่อนหน้า  เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงที่ร้ายแรงนะคะ

ฉีดฟิลเลอร์

CONTACT FOR SPECIAL PRIVILEGES

กดด้านล่างติดเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเเละสิทธิ์อื่นๆ

โทร RWC
line rwc
Facebook rwc
โทร RWC
Facebook rwc
line rwc

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic

ทีมแพทย์ RWC