การเติมไขมันหน้าเป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีคุณสมบัติในการช่วยให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม เด็กลง และเป็นธรรมชาติ แต่ปัญหาหนึ่งที่พบบ่อยและทำให้ผู้รับบริการกังวลคือ ฉีดไขมันแล้วเป็นก้อน ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าดูไม่เรียบเนียน มีความผิดปกติ และอาจต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติม หากคุณกำลังพิจารณาการเติมไขมันหน้า หรือกำลังประสบปัญหา ฉีดไขมันแล้วเป็นก้อน บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจสาเหตุ วิธีป้องกัน และแนวทางการแก้ไขอย่างถูกต้อง
ข้อดีของการเติมไขมันหน้า
- ใช้เซลล์จากร่างกายตัวเอง ไม่มีปฏิกิริยาแพ้ – เนื่องจากเป็นเซลล์ไขมันจากร่างกายตัวเอง จึงไม่เกิดการต่อต้านหรือปฏิกิริยาแพ้เหมือนสารสังเคราะห์ ทำให้ปลอดภัยและเหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือไม่ต้องการสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ – ไขมันมีเนื้อสัมผัสและความนิ่มที่คล้ายกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังตามธรรมชาติ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความเป็นธรรมชาติสูง ไม่แข็งหรือผิดปกติเมื่อสัมผัส และยังมี stem cell ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิว
- สามารถแก้ไขปัญหาหลายจุดพร้อมกัน – ในการทำครั้งเดียวสามารถเติมไขมันได้หลายบริเวณบนใบหน้า เช่น หน้าผาก ขมับ แก้ม และใต้ตาพร้อมกัน ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย รวมทั้งได้ผลลัพธ์ที่สมดุลและเข้ากันทั้งหน้า
- ช่วยปรับสัดส่วนหน้าให้สมดุล – การเติมไขมันช่วยปรับโครงหน้าให้มีสัดส่วนที่สวยงาม เพิ่มมิติให้กับใบหน้า และสามารถปรับแก้จุดบกพร่องทางพันธุกรรม เช่น หน้าผากแบน ขมับลึก หรือแก้มตอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ความเชี่ยวชาญและเทคนิคของแพทย์ไม่เพียงพอ
ฉีดไขมันแล้วเป็นก้อน มักเกิดจากแพทย์ขาดประสบการณ์หรือไม่มีความชำนาญเฉพาะทาง การฉีดไขมันต้องผสานความรู้ทั้งการดูดไขมันและการเติมไขมัน รวมถึงต้องเข้าใจกายวิภาคของใบหน้าอย่างลึกซึ้ง
ปัญหาที่อาจเกิดจากเทคนิคผิด
- ฉีดไขมันในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป
- วางไขมันไม่กระจายทั่วบริเวณ
- ฉีดปริมาณมากเกินไปในจุดเดียว
- ไม่ใช้เทคนิคที่เหมาะสม
2. กระบวนการเตรียมไขมันไม่ได้มาตรฐาน
การเตรียมไขมันก่อนฉีดเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก หากไม่ดำเนินการอย่างถูกต้อง จะส่งผลให้ ฉีดไขมันแล้วเป็นก้อน ได้
ขั้นตอนที่ถูกต้องในการเตรียมไขมัน
- ปั่นไขมันอย่างน้อย 2 ครั้งเพื่อแยกเซลล์ไขมันให้บริสุทธิ์
- กรองสิ่งปนเปื้อน เลือด น้ำเกลือ และยาชาออก
- ปรับขนาดโมเลกุลให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะฉีด
- เก็บไขมันในระบบปิดปลอดเชื้อ
หากข้ามขั้นตอนเหล่านี้ ไขมันที่ยังเป็นก้อนหรือมีสิ่งปนเปื้อนจะทำให้เกิดปัญหาตามมา
3. เครื่องมือและเทคโนโลยีไม่เหมาะสม
การใช้เครื่องดูดไขมันที่ไม่เหมาะสมจะทำลายเซลล์ไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันฝ่อและตายง่าย เมื่อนำมาฉีดจึงไม่สามารถอยู่รอดได้ และกลายเป็นก้อนในที่สุด
4. การดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันผิดวิธี
หลังจากฉีดไขมันแล้ว การดูแลตัวเองในช่วง 1 เดือนแรกมีความสำคัญมาก การกดทับหรือใช้แรงกับบริเวณที่เพิ่งฉีดไขมันอาจทำให้เกิดปัญหา ฉีดไขมันแล้วเป็นก้อน ได้
| อ่านเพิ่มเติม คุณหมอสรุปให้ ฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting)
อาการที่ควรสังเกต
- ผิวไม่เรียบเนียน มีความขรุขระหรือเป็นคลื่น – เมื่อสังเกตจากภายนอก บริเวณที่ฉีดไขมันจะดูไม่เรียบเนียนเหมือนผิวปกติ อาจมีความขรุขระ หรือมีลักษณะเป็นคลื่นเหมือนผิวส้ม โดยเฉพาะเมื่อมองในแสงสว่างหรือเมื่อทำสีหน้าต่างๆ ความผิดปกตินี้จะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น
- จับแล้วรู้สึกแข็ง มีก้อนใต้ผิวหนัง – เมื่อใช้นิ้วกดเบาๆ หรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดไขมัน จะรู้สึกถึงก้อนแข็งใต้ผิวหนัง ซึ่งแตกต่างจากเนื้อเยื่อปกติที่ควรมีความนิ่มและยืดหยุ่น ก้อนเหล่านี้อาจมีขนาดตั้งแต่เล็กเหมือนเม็ดถั่วไปจนถึงใหญ่เหมือนลูกปิงปอง ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่ตายและรวมตัวกัน
- หน้าไม่สมมาตร 2 ข้างไม่เท่ากัน – การที่ไขมันติดไม่เท่ากันหรือเป็นก้อนเฉพาะข้างใดข้างหนึ่ง จะทำให้ใบหน้าดูไม่สมมาตร อาจมีข้างหนึ่งดูอวบกว่าอีกข้าง หรือมีรูปทรงที่แตกต่างกัน ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อมองจากหน้าตรงหรือเมื่อถ่ายรูป
- ผิวหน้าดูผิดรูป ไม่เป็นธรรมชาติ – รูปหน้าโดยรวมอาจดูผิดไปจากเดิม มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นธรรมชาติ เช่น หน้าดูบิดเบี้ยว มีการยื่นหรือยุบผิดปกติในบางจุด หรือสัดส่วนของใบหน้าดูไม่ลงตัว ทำให้ดูแปลกตาและไม่เหมือนคนเดิม
- มีการอักเสบ แดง บวม หรือเจ็บ – หากมีการติดเชื้อหรือร่างกายปฏิเสธไขมันที่ตาย อาจมีอาการอักเสบตามมา เช่น ผิวแดง บวม มีความร้อน เจ็บเมื่อแตะต้อง หรืออาจมีหนองไหลออกมา อาการเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณเตือนที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที
ระยะเวลาที่อาการปรากฏ
อาการ ฉีดไขมันแล้วเป็นก้อน มักจะสังเกตได้ภายใน 2-4 สัปดาห์หลังจากทำหัตถการ ในบางกรณีอาจปรากฏเร็วกว่านี้หากมีการอักเสบหรือติดเชื้อร่วมด้วย
1. การรอให้ไขมันสลายตัวเองตามธรรมชาติ
ในกรณีที่ไม่มีการอักเสบหรือติดเชื้อ แพทย์มักแนะนำให้รอให้ไขมันสลายตัวเองก่อน เนื่องจากปัจจัยดังต่อไปนี้
- ไม่มีเอนไซม์ที่สามารถสลายไขมันได้เหมือนฟิลเลอร์
- ร่างกายจะค่อยๆ ดูดซับไขมันที่ตายแล้วออกไป
- ระยะเวลาในการสลายประมาณ 6-12 เดือน
2. การผ่าตัดนำไขมันออก
หากก้อนไขมันมีขนาดใหญ่หรือก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรง อาจต้องพิจารณาผ่าตัดนำออก โดยเฉพาะที่บริเวณใบหน้าซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูงเนื่องจากปัจจัยดังต่อไปนี้
- มีเส้นประสาทเยอะมาก
- ต้องการความแม่นยำในการผ่าตัด
- ความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง
3. การรักษาเสริมด้วยเทคนิคอื่น
- ใช้ฟิลเลอร์ปรับแต่งความไม่สมมาตร
- โบท็อกช่วยตกแต่งในบางกรณี
- การนวดเบา ๆ เพื่อช่วยให้การไหลเวียนดีขึ้น
- ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพของแพทย์ – แพทย์ที่ทำการฉีดไขมันควรเป็นแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์อย่างถูกต้องจากแพทยสภา และควรมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านศัลยกรรมตกแต่ง หรือแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทางด้านการฉีดไขมันอย่างเป็นระบบ
- ดูประสบการณ์เฉพาะด้านการฉีดไขมัน – แพทย์ควรมีประสบการณ์ในการทำหัตถการฉีดไขมันมาอย่างน้อย 3-5 ปี และเคยทำงานกับเคสที่หลากหลาย สามารถแสดงผลงานก่อน-หลัง (Before-After) ของผู้ป่วยจริงได้ โดยเฉพาะเคสที่คล้ายกับปัญหาของเรา
- อ่านรีวิวและผลงานจากผู้รับบริการจริง – ศึกษารีวิวจากผู้ป่วยจริงที่เคยรับบริการ โดยเฉพาะรีวิวที่มีรูปภาพประกอบและมีการติดตามผลในระยะยาว (6 เดือน – 1 ปีหลังทำ) เพื่อดูว่าผลลัพธ์คงทนหรือไม่ และมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือไม่
- เลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและการรับรอง – คลินิกควรได้รับใบอนุญาตประกอบการรักษาจากกระทรวงสาธารณสุข มีการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีระบบจัดการคุณภาพที่ดี
บทสรุป
ฉีดไขมันแล้วเป็นก้อน เป็นปัญหาที่สามารถป้องกันได้หากเลือกแพทย์และคลินิกที่เชี่ยวชาญ ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง หากเกิดปัญหาขึ้นมา ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม
การตัดสินใจเติมไขมันหน้าควรทำอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาทั้งข้อดี ข้อเสีย และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น อย่าลืมว่าความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์และมาตรฐานของสถานพยาบาลเป็นหลัก การเลือกให้ถูกต้องจะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหา ฉีดไขมันแล้วเป็นก้อน และให้ผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติตามที่ต้องการ