การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมดุล ลดความเด่นของโหนกแก้ม และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ฟิลเลอร์ขมับ ข้อห้าม และข้อปฏิบัติต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ผู้ที่สนใจฉีดต้องศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ เพราะการไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ หรือเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการได้
- งดรับประทานยาบางชนิด อย่างน้อย 7-14 วันก่อนฉีด ได้แก่ ยาแอสไพริน ยากลุ่ม NSAIDs วิตามินอี และยาต้านการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากยาเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดรอยช้ำและเลือดออกใต้ผิวหนัง
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีส่วนผสมของน้ำมันปลา โสม ขิง กระเทียม และสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เพราะอาจทำให้เลือดหยุดไหลยากขึ้น
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนฉีด เนื่องจากแอลกอฮอล์ขยายหลอดเลือด ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์ความร้อน บริเวณใบหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อให้ผิวหนังอยู่ในสภาพปกติและไม่บอบบาง
- ห้ามสัมผัส กด นวด หรือแกะ บริเวณขมับที่ฉีดฟิลเลอร์ เนื่องจากอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตำแหน่งหรือเสียรูปทรงได้ หากรู้สึกคันหรือระคายเคือง ให้ใช้ผ้าสะอาดเช็ดเบา ๆ แทน
- งดการออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดไปยังหน้า เช่น การวิ่ง การยกน้ำหนัก หรือการออกกำลังกายที่ต้องโน้มหัวลง เพราะอาจทำให้เกิดการบวมมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด รวมถึงการอาบน้ำร้อน การเข้าซาวน่า การอยู่ใกล้เตาไฟ หรือการตากแดด เนื่องจากความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวเร็วกว่าปกติ
- งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะสารเหล่านี้ขัดขวางกระบวนการหายของแผลและเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดการอักเสบ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่เพิ่มการอักเสบ เช่น อาหารรสจัด อาหารเผ็ดมาก อาหารเค็มจัด เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดการบวมและอักเสบเพิ่มขึ้น
- งดอาหารดิบ อาหารหมัก และอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุก เนื่องจากเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรค ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- ลดการบริโภคน้ำตาล และผลิตภัณฑ์จากนมในช่วงแรก เพราะอาจส่งเสริมการอักเสบและทำให้การหายช้าลง
- ดื่มน้ำสะอาด อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำได้ดีและดูอิ่มฟูเป็นธรรมชาติ
- งดการนอนตะแคงหรือควํ่า ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แนะนำให้นอนหงายเพื่อไม่ให้เกิดแรงกดทับบริเวณขมับ หากจำเป็นต้องนอนตะแคง ให้ใช้หมอนรองไม่ให้กดทับบริเวณที่ฉีด
- หลีกเลี่ยงการใส่หมวกหรืออุปกรณ์ที่กดทับขมับ เช่น หูฟังครอบหู แว่นตา หรือหมวกที่รัดแน่น อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดการทำหัตถการความงามอื่น บริเวณใบหน้า เช่น การฉีดโบท็อกซ์ การทำเลเซอร์ หรือการทำ RF ภายใน 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่สมบูรณ์ก่อน
- ระวังการแต่งหน้า ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก หากจำเป็นต้องแต่งหน้า ให้หลีกเลี่ยงการทาเครื่องสำอางลงบนรอยเข็มโดยตรง
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เนื่องจากสารเหล่านี้ทำลายคอลลาเจนและทำให้ผิวเสื่อมเร็วขึ้น ส่งผลให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าปกติ
- ป้องกันผิวจากแสงแดด โดยการทาครีมกันแดดทุกวันและหลีกเลี่ยงการอยู่ใต้แสงแดดจัดเป็นเวลานาน เพราะรังสี UV ทำลายไฮยาลูรอนิก แอซิดในฟิลเลอร์
- งดการทำหัตถการที่ใช้ความร้อนสูง เช่น การทำ HIFU การทำ Thermage หรือการใช้เลเซอร์ที่มีพลังงานสูงบริเวณขมับ เป็นเวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน
- ระวังการใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ที่มีส่วนผสมของกรดแรง เช่น กรด AHA, BHA หรือ Retinoid ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
การปฏิบัติตามฟิลเลอร์ขมับ ข้อห้าม ต่าง ๆ ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันผลข้างเคียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความคุ้มค่าของการลงทุนอีกด้วย เนื่องจากการดูแลที่ถูกต้องจะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น มีรูปทรงที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ
หากเกิดอาการผิดปกติใด ๆ เช่น บวมมากผิดปกติ มีไข้ ปวดรุนแรง หรือเกิดการอักเสบ ควรติดต่อแพทย์ผู้ทำการรักษาทันที เพราะการรักษาเร็วจะช่วยลดความรุนแรงของปัญหาได้
นอกจากนี้ การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ และการใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในการฉีดฟิลเลอร์ขมับ
บทสรุป
การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดี หากปฏิบัติตาม ฟิลเลอร์ขมับ ข้อห้าม และคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด การเตรียมตัวก่อนฉีดและการดูแลหลังฉีดมีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยข้อห้ามสำคัญ ได้แก่ การหลีกเลี่ยงยาบางชนิดก่อนฉีด การไม่สัมผัสบริเวณที่ฉีดใน 48 ชั่วโมงแรก การงดความร้อนและกิจกรรมหนัก รวมถึงการเลือกอาหารที่เหมาะสม การปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และคงอยู่ได้นานตามที่ต้องการ