ฟิลเลอร์จมูกอันตรายไหม | รวมความเสี่ยงที่ต้องระวังก่อนฉีด

ฟิลเลอร์จมูกอันตรายไหม

ฟิลเลอร์จมูกอันตรายไหม? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อกำลังพิจารณาวิธีการปรับรูปทรงจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาน้อย และเห็นผลทันที แต่ความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจถึงความเสี่ยง ข้อควรระวัง และสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์จมูก เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่าวิธีการนี้เหมาะสมกับคุณหรือไม่

ฟิลเลอร์จมูกคืออะไร?

ฟิลเลอร์จมูกคืออะไร

ฟิลเลอร์จมูกเป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid หรือ HA) เข้าใต้ผิวหนังบริเวณจมูก เพื่อปรับรูปทรงให้ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสันจมูกให้โด่งขึ้น ปรับปลายจมูกให้เชิดหรือมีรูปทรงที่ชัดเจนขึ้น หรือแก้ไขความไม่สมมาตรของจมูก

กรดไฮยาลูรอนิคเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายอยู่แล้ว ทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้นและให้ความยืดหยุ่นแก่ผิวหนัง ทำให้ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีความปลอดภัยค่อนข้างสูงและมีโอกาสเกิดอาการแพ้น้อย นอกจากนี้ กรดไฮยาลูรอนิคยังสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ หรือสามารถฉีดสารสลายฟิลเลอร์ได้หากผลลัพธ์ไม่เป็นที่พอใจ

| อ่านเพิ่มเติม  ฟิลเลอร์จมูก (Nose Filler) เสริมดั้งสวยปลายพุ่ง ปลอดภัย ไม่ผ่าตัด

 

ฟิลเลอร์จมูกอันตรายไหม? ความเสี่ยงที่ต้องรู้

แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์จมูกจะเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะหากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ไม่มากพอ ซึ่งความเสี่ยงและอันตรายที่สำคัญมีดังนี้

1. การอุดตันของเส้นเลือดและเนื้อตาย

การอุดตันของเส้นเลือดและเนื้อตาย

บริเวณจมูกมีเส้นเลือดแดงสำคัญชื่อ Dorsal nasal artery ที่ทอดยาวจากหัวคิ้วลงมาถึงปลายจมูก และเชื่อมต่อกับเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงดวงตา การฉีดฟิลเลอร์ผิดเทคนิคหรือการใช้แรงดันมากเกินไป อาจทำให้ฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือดนี้ได้

เมื่อฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด จะทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนปลายได้ ส่งผลให้เกิดภาวะขาดเลือด ซึ่งจะมีอาการดังนี้:

  • ผิวหนังบริเวณที่ฉีดจะเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด ตามด้วยสีเทาหรือสีน้ำเงิน
  • เกิดอาการปวดรุนแรงผิดปกติ
  • ผิวหนังขาดออกซิเจนจนอาจนำไปสู่เนื้อตายและเกิดแผลเป็นถาวร

ในกรณีร้ายแรงที่สุด หากฟิลเลอร์ย้อนเข้าไปในเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงดวงตา อาจส่งผลให้เกิดภาวะตาบอดได้ โดยผู้ป่วยจะมีอาการตาพร่ามัวทันที ตามด้วยการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร

2. การติดเชื้อและภาวะอักเสบ

การติดเชื้อและภาวะอักเสบ

แม้จะพบได้ไม่บ่อย แต่การติดเชื้อหลังการฉีดฟิลเลอร์เป็นความเสี่ยงที่เป็นไปได้ โดยเฉพาะหากอุปกรณ์หรือสถานที่ไม่ได้มาตรฐานความสะอาดที่เพียงพอ อาการของการติดเชื้อมีดังนี้

  • บวมแดงมากกว่าปกติและนานกว่า 2-3 วัน
  • มีอาการปวดเสียว แสบร้อนบริเวณจมูก
  • มีหนองหรือของเหลวไหลออกมาจากจุดที่ฉีด
  • มีไข้ อ่อนเพลีย หรืออาการทางระบบอื่นๆ

หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การติดเชื้ออาจลุกลามกลายเป็นฝีหรือเซลล์อักเสบ (Cellulitis) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผิวหนังและเนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้ต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือในกรณีรุนแรงอาจต้องผ่าตัด

3. อาการแพ้และปฏิกิริยาต่อฟิลเลอร์

อาการแพ้และปฏิกิริยาต่อฟิลเลอร์

แม้กรดไฮยาลูรอนิคจะเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ แต่ฟิลเลอร์ทางการค้าอาจมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ อาการแพ้อาจแสดงออกได้หลายรูปแบบ

  • ผื่นแดง คัน บริเวณที่ฉีดและบริเวณใกล้เคียง
  • บวมมากกว่าปกติ และอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของใบหน้า
  • ในกรณีรุนแรง อาจเกิดภาวะการบวมของชั้นใต้ผิวหนังและเยื่อเมือก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทางเดินหายใจ

นอกจากนี้ ยังมีภาวะที่เรียกว่า Granuloma ซึ่งเป็นก้อนเนื้อเกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อสารแปลกปลอม สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลานาน (สัปดาห์หรือเดือน) และอาจต้องใช้การรักษาด้วยสเตียรอยด์หรือการผ่าตัดออก

4. ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

ความเสี่ยงด้านผลลัพธ์ความสวยงามของการฉีดฟิลเลอร์จมูกมีหลายประการ ดังนี้

ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
  • ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว – โดยเฉพาะถ้าใช้ฟิลเลอร์ที่มีความหนืดต่ำหรือนุ่มเกินไป อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนออกจากตำแหน่งที่ต้องการ ส่งผลให้จมูกดูผิดรูป
  • จมูกไม่สมมาตร – การฉีดที่ไม่เท่ากันทั้งสองด้านอาจทำให้จมูกดูเบี้ยว
  • จมูกบวมหรือดูใหญ่เกินไป –  หากฉีดปริมาณมากเกินไปหรือใช้เทคนิคไม่เหมาะสม
  • ก้อนฟิลเลอร์ – เกิดจากฟิลเลอร์ที่ฉีดไม่กระจายตัวสม่ำเสมอ ทำให้เกิดเป็นปุ่มหรือก้อนที่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้

แม้ว่าจะมีความเสี่ยงดังที่กล่าวมาข้างต้น แต่จากสถิติที่ผ่านมา กรณีที่เกิดอันตรายร้ายแรงจากการฉีดฟิลเลอร์จมูก เช่น การสูญเสียการมองเห็น มีน้อยกว่า 0.08% ของผู้เข้ารับการฉีดทั้งหมด และมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาขึ้น

ในกรณีฉุกเฉินที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะมีวิธีการรักษาเฉพาะทาง เช่น การฉีดเอนไซม์ hyaluronidase เพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ทันทีหากพบว่ามีการอุดตันของเส้นเลือด ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันการเกิดเนื้อตายหรือการสูญเสียการมองเห็น

สิ่งสำคัญที่สุดในการลดความเสี่ยงคือการเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์จมูกโดยเฉพาะ และดำเนินการในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือและยาสำหรับรับมือกับภาวะฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น

| อ่านเพิ่มเติม  ฉีดสลายฟิลเลอร์ ทางออกปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน ไม่สวยแก้ไขได้

บทสรุป

การ ฉีดฟิลเลอร์จมูกอันตรายไหม ? แน่นอนว่ามีความเสี่ยงแต่หากฉีดรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายร้ายแรงมีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสียอย่างรอบคอบ

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์จมูกคือไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้นน้อย เห็นผลลัพธ์ทันที และสามารถแก้ไขได้หากไม่พอใจ แต่ข้อเสียคือผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ำทุก 6-24 เดือน และมีข้อจำกัดในการปรับเปลี่ยนรูปทรงจมูกอาจะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานจมูกเดิมเนื้อน้อย

สุดท้ายนี้ การเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการลดความเสี่ยง ควรตรวจสอบประวัติและผลงานของแพทย์ รวมถึงใบรับรองมาตรฐานของคลินิกหรือโรงพยาบาลก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ การปฏิบัติตามคำแนะนำในการเตรียมตัวและการดูแลหลังการฉีดอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยนะคะ

CONTACT FOR SPECIAL PRIVILEGES

กดด้านล่างติดเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเเละสิทธิ์อื่นๆ

โทร RWC
line rwc
Facebook rwc
โทร RWC
Facebook rwc
line rwc

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง RWC Clinic

ทีมแพทย์ RWC

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า