ปัญหาผิวหย่อนคล้อยเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งมีการดูแลที่แตกต่างกันออกไป ดูแลโดยการบำรุง หรือปรึกษาสถาบันเสริมความงาม ซึ่งนวัตกรรมที่ช่วยในเรื่องยกกระชับผิวตัวล่าสุดคงหนีไม่พ้น Thermage ตัวนี้ จนเกิดคำถามว่า Thermage ดีไหม วันนี้เรามีคำตอบมาให้ทุกท่านได้กระจ่างแล้ว
Thermage FLX คือ
นวัตกรรมที่ช่วยเรื่องยกกระชับผิวทั้งใบหน้า บริเวณรอบดวงตาและลำตัว ซึ่ง Thermage FLX เป็นตัวใหม่ล่าสุดที่ปล่อยปล่อยความร้อนจากคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) สามารถลงผิวได้ถึง 3 ชั้นผิว ได้แก่ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ชั้นหนังแท้ (Dermis) และ ชั้นไขมัน (Subcutis) จึงสามารถยกกระชับหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ซึ่งโครงสร้างผิวของคนเราประกอบด้วยชั้นผิวต่าง ๆ 3 ชั้นที่กล่าวไปข้างต้น คือ
1. ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นชั้นผิวที่อยู่นอกสุด ทำหน้าที่ในการช่วยปกป้องผิวจากสารพิษ แบคทีเรีย และการสูญเสียน้ำ
2. ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นชั้นผิวที่มีองค์ประกอบหลัก คอลลาเจน และ อิลาสติน เนื้อเยื่อเกี่ยวพันให้ความแข็งแรง เปรียบเสมือนเสาหลักที่คอยรักษาความยืนหยุ่นของผิว ช่วยให้ผิวมีสุภาพดี ดูอ่อนเยาว์ เส้นใยเหล่านี้จะถูกตรึงไว้ด้วยสารที่ลักษณะคล้ายเจล หรือสาร hyaluronic acid ซึ่งมีความสามารถในการจับน้ำได้ดี และช่วยรักษาปริมาตรของผิวเอาไว้อีกด้วย
3. ชั้นใต้ผิวหนัง หรือ ชั้นไขมัน (Subcutis) ประกอบด้วยเซลล์ไขมันเป็นหลัก จำนวนของเซลล์ไขมันที่อยู่ในชั้นไขมัน จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละส่วนของร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้นการกระจายตัวของไขมันยังมีความแตกต่างกันระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย
ด้วยคุณสมบัติพลังความร้อนของ Thermage ที่สามารถยิงลงได้ลึกถึง 3 ชั้นผิว ผลลัพธ์ที่ได้จึงสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ พร้อมทั้งสลายไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณใบหน้าได้ด้วย ทำให้ผิวแน่นและกระชับ เกิดความยืดหยุ่นที่มากขึ้น
ดังนั้น ใครที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว จากตัวเลขของอายุที่มากขึ้น เส้นใยคอลลาเจนสูญเสียความยืดหยุ่น และปริมาณคอลลาเจนในชั้นผิวลดน้อยลง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย หมอส่วนใหญ่จึงแนะนำ Thermage มาใช้เพือช่วยแก้ไขปัญหา เพราะไม่ต้องเจ็บจากการผ่าตัดและไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้น
อยาก Thermage ลำตัว บ้าง
Thermage Thermage CPT และ Thermage FLX แตกต่างกันอย่างไร
การทำ Thermage เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง มีไขมันใต้ชั้นผิวค่อนข้างมาก เช่น มีแก้มเยอะ มีเหนียง มีปัญหาเรื่องเซลลูไลท์ (Cellulite) หรือผิวเปลือกส้ม เพราะแม้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวไม่เท่ากับการทำ Ultherapy หรือ HIFU แต่ Thermage สามารถลดไขมันใต้ชั้นผิวได้ดีกว่ามาก แล้ว Thermage ดีไหม แตกต่างกันอย่างไร
เครื่อง Thermage มีให้เห็นกันหลากหลายรุ่น โดยรุ่นที่นิยมใช้ในประเทศไทย คือ Thermage CPT และ Thermage FLX ซึ่งมีความแตกต่างกัน ดังนี้
- Thermage CPT เป็นเครื่องรุ่นเก่า ต้องอาศัยแพทย์ที่มีความชำนาญสูง เพราะไม่มีระบบคำนวณพลังงานความร้อนใต้ผิว โดยใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 1-2 ชั่วโมง และมีราคาที่ถูกกว่า Thermage FLX
- Thermage FLX เป็นเครื่องรุ่นใหม่ หัวยิงมีขนาดใหญ่กว่า มีระบบช่วยคำนวณพลังงานความร้อนใต้ชั้นผิว และโฟกัสแม่นยำแบบเรียลไทม์ ใช้จำนวนช็อตน้อยกว่ารุ่นเก่า แต่ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน เจ็บน้อยกว่า และใช้เวลาในการทำเร็วกว่า Thermage CPT ประมาณ 25%
Thermage รอบดวงตา เป็นอย่างไรกัน
การเตรียมตัวก่อนทำ Thermage
- ควรศึกษาข้อมูลของ Thermage อย่างละเอียด
- เลือกสถาบันเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน มีเลขใบอนุญาตประกอบกิจการ 11 หลัก
- เข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินและป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
- ควรเตรียมผิวของเราให้พร้อมด้วยการทาครีมบำรุง
- ก่อนทำอย่างน้อย 2 สัปดาห์ งดรับประทานยาที่ทำให้เลือดง่าย
- งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ดูแลตัวเองหลังทำ Thermage
- หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที เช่น การใช้เครื่องสำอาง
- ควรดูแลรักษาผิวหน้าด้วยการทาครีมหรือเซรั่มบำรุงที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติเป็นประจำ
- ควรดูแลรักษาผิวกายด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์
- ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ เป็นประจำก่อนออกไปทำกิจกรรมที่ต้องเผชิญแสงแดด
- ควรรับประทานอาหาร เช่น อาหารจำพวกปลาทะเลน้ำลึก ผัก และผลไม้ เพราะสารอาหารเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างปริมาณคอลลาเจนในผิวหนัง และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีผลยับยั้งความเสื่อมสภาพของผิวพรรณ
- ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยในการดูดซึม เพิ่มความชุ่มชื่น และรักษาความยืดหยุ่นของผิวได้เป็นอย่างดี
- ควรเติมคอลลาเจนและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว เช่น การมาร์คหน้าด้วยแตงกวา ว่านหางจระเข้
- หลีกเลี่ยงมลภาวะ เช่น ฝุ่น ควัน
ข้อดี Thermage
- เห็นผลหลังทำ 20 % และผิวจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 2-6 เดือน
- ผลลัพธ์นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการบำรุงผิวแต่ละบุคคล
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ใช้เวลาทำไม่นาน สามารถทำได้ทั้งหน้าและตัว
- ครอบคลุมทุกชั้นผิวและชั้นไขมัน
ข้อควรระวังของ Thermage
- Thermage จะไม่เหมาะกับผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนังมาก ๆ
ควรหลีกเลี่ยงการรักษาสำหรับผู้ที่มีอาการ ดังนี้
- คุณแม่ที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์
- ผู้ที่ต้องใส่อุปกรณ์เทียมที่เป็นโลหะ เช่น โรคหัวใจ
- ผู้ป่วยที่มีอาการของโรคลมชัก โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูงขั้นรุนแรง
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคติดเชื้อต่าง ๆ ได้แก่ งูสวัด เริม
- ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกหรือแผลหายช้ากว่าปกติ เช่น โรคเลือดไหลไม่หยุด โรคฮีโมฟีเลีย หรือผู้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ
- ผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาในกลุ่มของยาละลายลิ่มเลือด เช่น ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (วาร์ฟาริน )
- ผู้ที่กำลังมีบาดแผลเปิดบนใบหน้า เช่น รอยถลอก
- ผู้ที่กำลังเป็นสิวอักเสบที่รุนแรง และกำลังใช้ยาทาหรือแต้มหัวสิวอยู่
สรุป
Thermage ช่วยยกกระชับผิวให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้งโดยไม่ต้องผ่านการผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลา สามารถกลับไปทำกิจกรรมต่อได้เลย จบปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย จากที่กล่าวมาเป็นคำตอบได้แล้วหรือยังว่า Thermage ดีไหม