อยากจะซ่อมแซมการใช้งานของน้องสาวแบบไม่ต้องเจ็บตัว ต้องเลือกการทำ รีแพร์ ไม่ต้องผ่าตัด ช่วยกระชับน้องสาวของเราได้แบบไม่ต้องทำการผ่าตัด และยังได้ผลลัพธ์เทียบเท่าการผ่าตัดรีแพร์ด้วย เพราะในยุคปัจจุบันมีการใส่ใจจุดสำคัญของผู้หญิง จึงอยากให้ผู้หญิงมีสุขภาพน้องสาวที่ดีไปพร้อมกับความปลอดภัย
สารบัญ
รีแพร์ ไม่ต้องผ่าตัด คืออะไร
การทำรีแพร์โดยไม่ต้องผ่าตัดมีหลากหลายวิธี ทั้งการขมิบ หรือการใช้หญ้ารีแพร์ แต่ในที่นี้เราจะพูดถึงการรีแพร์โดยใช้เลเซอร์ โดยเลเซอร์รีแพร์ คือ เลเซอร์เพื่อการกระชับช่องคลอด นวัตกรรมใหม่การทำรีแพร์ เป็นการใช้พลังงานคลื่นความถี่ RF หรือ Radio Frequency ด้วยวิธีการปล่อยพลังงานอ่อนในรูปของคลื่นวิทยุ ความถี่ที่ปลอดภัย จากกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นการกระชับช่องคลอดโดยไม่ต้องทำการผ่าตัดแบบเดิมอีกต่อไป
รีแพร์ ไม่ต้องผ่าตัด มีวิธีการอย่างไร
เป็นการนำเครื่องยิงเลเซอร์ขนาดเล็กใส่เข้าไปในช่องคลอด จากนั้นก็จะยิงเลเซอร์ตามระยะเวลาที่แพทย์ได้วางแผนไว้ ซึ่งส่วนมากจะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีในการรักษาแต่ละครั้ง เมื่อยิงเลเซอร์เข้าไปแล้ว ความร้อนที่ได้จากเลเซอร์จะไปกระตุ้นให้คอลลาเจนที่อยู่ตามเนื้อเยื่อช่องคลอดเกิดการหดตัวลง ขณะเดียวกันก็จะไปกระตุ้นให้เนื้อเยื่อสร้างคอลลาเจนและสารอีลาสติกใหม่ ซึ่งจะทำให้ภายในช่องคลอดหนาตัวขึ้นกว่าเดิม ผลที่ได้คือภายในช่องคลอดมีความแข็งแรง และกระชับเหมือนที่เคยเป็น
ข้อดีของการ รีแพร์ ไม่ต้องผ่าตัด
- การทำเลเซอร์รีแพร์ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องดมยาสลบ ปลอดภัย
- ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน เทียบการการผ่าตัด
- รักษาได้ทั้งอาการปัสสาวะเล็ด และกระชับช่องคลอด
- ลดอาการเยื่อบุช่องคลอดแห้งและอักเสบ
- ขณะรักษาไม่มีความเจ็บปวด และหลังการรักษาสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันต่อได้ทันที
- ช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดแห้ง อวัยวะเพศคล้ำ
รีแพร์ ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับใคร
- ผู้มีปัญหาภาวะช่องคลอดไม่กระชับ หลังจากการคลอดบุตร
- ผู้มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ภาวะปัสสาวะเล็ด
- ผู้มีภาวะฮอร์โมนพร่อง ทำให้ช่องคลอดไม่กระชับ
- ผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ ปัสสาวะเล็ด และไม่ต้องการผ่าตัด เนื่องจากไม่ได้เป็นมาก (อายุระหว่าง 20-70 ปี)
อ่านเพิ่มเติม : รีแพร์หลังคลอด
ปัญหาช่องคลอดหย่อนยาน อุ้งเชิงกรานหย่อน เป็นอย่างไร
ภาวะปัญหาช่องคลอดหลวม ไม่กระชับ จนก่อให้เกิดภาวะปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ควบคุมไม่ได้ ส่วนใหญ่พบในผู้หญิงช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป และเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน โดยเฉพาะการคลอดบุตร ซึ่งทำให้เกิดความหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อ หรือเกิดการฉีกขาดของคอลลาเจน และอีลาสตินในบริเวณช่องคลอด นอกจากนี้อาจเกิดจากการอักเสบติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หรือความเจ็บป่วยจากความผิดปกติของฮอร์โมนทําให้มีปัญหาเบาหวาน ทั้งหมดนี้ทําให้มีผลต่อการกลั้นปัสสาวะ เพียงไอ จามหรือหัวเราะ ก็ทำให้ปัสสาวะเล็ดได้
ในรายที่เป็นมากอาจจะต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ เพื่อทำศัลยกรรมตกแต่งขนาดของช่องคลอดให้เล็กลง (Repair) ซึ่งเป็นวิธีที่เจ็บและแก้ปัญหาไม่ได้ 100% เนื่องจากวิธีนี้จะทำให้ปากช่องคลอดเล็กลง แต่ไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณปากช่องคลอดกระชับและแข็งแรงขึ้น
สาเหตุของการมีภาวะช่องคลอดหย่อนยาน
- มีเพศสัมพันธ์บ่อยและใช้เวลานานในแต่ละครั้งติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี
- การคลอดบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ โดยเฉพาะการคลอดบุตรหลายคน การคลอดบุตรที่มีน้ำหนักตัวแรกเกิดมากกว่า 3,500 กรัมขึ้นไป และการคลอดบุตรยากที่ต้องอาศัยเครื่องดูดสูญญากาศหรือใช้คีมช่วยคลอด
- มีอายุมากขึ้น หรือเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยทอง
- มีน้ำหนักตัวน้อย หรือมีน้ำหนักตัวมากเกินไป
- ทำงานประจำที่ต้องเกร็งช่องท้องบ่อย เช่น ยกของหนัก
- มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น ท้องผูกรุนแรง หรือเป็นโรคที่ทำให้เกิดอาการไอรุนแรง จึงทำให้แรงดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น
- มีภาวะทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ ทำให้มีปัญหากับการปัสสาวะ
วิธีเตรียมตัวก่อนเข้ารับการทำ รีแพร์ ไม่ต้องผ่าตัด
- ไม่ควรเข้ารับการทำรีแพร์ในช่วงเวลา 7 วัน ก่อนและหลังมีประจำเดือน เพราะอาจมีการปนเปื้อนและทำให้แผลเกิดการติดเชื้อได้
- ผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด ต้องงดน้ำและอาหารทุกชนิดก่อนเข้ารับการผ่าตัดเป็นเวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- งดใช้ยาทุกชนิดก่อนเข้ารับการรักษา โดยเฉพาะยาที่มีผลต่อเลือด เช่น แอสไพริน
- หากมีโรคประจำตัว หรือแพ้อาหาร ต้องแจ้งแพทย์ทุกครั้งก่อนทำการรักษา
การดูแลตัวเองหลังการทำ รีแพร์ ไม่ต้องผ่าตัด
- งดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 45 วัน หรือจนกว่าจะมั่นใจว่าแผลหายสนิท
- หลังการรักษาอาจพบเลือดซึมออกจากแผลบ้าง สามารถใส่ผ้าอนามัยให้ดูดซับเลือดจนกว่าเลือดจะหยุดไหลได้
- ภายใน 3-5 วันแรงหลังการรักษา ผู้ป่วยอาจรู้สึกตึงแผล จึงอาจทำให้ปวดหน่วงๆ ที่ก้นคล้ายปวดอุจจาระ สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ตามปกติ เมื่อเวลาผ่านไปอาการปวดจะค่อยๆ ดีขึ้น
- พยายามเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด ระหว่างนี้ให้หลีกเลี่ยงการยกของหนัก และเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อป้องกันแผลแตก
- งดสูบบุหรี่ และงดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 เดือนหลังผ่าตัด
- หลังอาบน้ำทุกครั้ง ควรทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันการอับชื้นการและการติดเชื้อแบคทีเรีย
- หากพบอาการผิดปกติ เช่น รอบบาดแผลบวมแดง ช้ำเขียว หรือปัสสาวะไม่ออก ให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที
อ่านเเพิ่มเติม : การทำรีแพร์ก่อนและหลัง
สรุป
รีแพร์ ไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์ที่ได้ดีกว่า ปลอดภัยกว่า แก้ปัญหาปัสสาวะเล็ด ให้หายได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ต่อการรักษาเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น วิธีที่ว่า ก็คือ เทคโนโลยีการรักษาด้วยการเลเซอร์ คืนความสาว แก้ปัญหาต่างๆ ได้ดี ทำให้หลังการรักษา ผู้ที่ได้รับการรักษาจะรู้สึกถึง ความกระชับตึง ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดหลวมได้ถึง 90% เลยทีเดียว