โบท็อก (Botox) คืออะไร รวมเรื่องต้องรู้ก่อนฉีด
เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยของการบอกลาความอ่อนเยาว์เริ่มมาทักทาย ต้องหาวิธีที่สามารถช่วยคืนความหน้าเด็กให้คงอยู่ อย่างการฉีดโบท็อก ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยเรื่องความอ่อนเยาว์ยังคงช่วยลดกราม ปรับรูปหน้าให้ใบหน้าดูเรียวได้ นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติในเรื่องอื่น ๆ อีกด้วย
สารบัญ
โบท็อก คือการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum toxin type A) เป็นสารที่เกิดจากแบคทีเรีย ที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โบท็อกถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราวและช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับใบหน้าให้ดูเรียว ดูเด็ก และแลดูอ่อนเยาว์
โบท็อกมีกี่ยี่ห้อ
ในปัจจุบันโบท็อกที่มีความปลอดภัยมีอยู่หลายยี่ห้อด้วยกัน ซึ่งจะมีความแตกต่างกันหลายอย่างทั้งบริษัทที่ผลิต ประเทศที่ผลิต เช่น ประเทศเกาหลี ประเทศเยอรมัน ประเทศอังกฤษ รวมไปถึงความบริสุทธิ์ของตัวยาที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาและระยะเวลาในการออกฤทธิ์อีกด้วย โดยโบท็อกซ์รุ่นยอดนิยม ซึ่งแต่ละแบรนด์นั้นมีคุณสมบัติและระยะเวลาเห็นผลลัพธ์ที่ยาวนานต่างกันไป ราคาก็แตกต่างกันด้วยเช่นกัน มียี่ห้อดังนี้
Allergan
เป็นโบท็อกมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีจุดเด่นที่มีการกระจายตัวแคบ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยมีโมเลกุลขนาดเล็ก มีความเข้มข้นสูง มีคุณภาพดี มีความบริสุทธิ์สููง อ่อนโยนและให้ผลการรักษาที่ดี อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
Dysport
เป็นโบท็อกมาจากประเทศอังกฤษ สามารถกระจายตัวได้ดี ลดต้นแขนและลดน่องปูด ลดเหงื่อบริเวณรักแร้และฝ่ามือ สามารถนำมาใช้ปรับรูปหน้า ด้วยเทคนิค dermolift เพื่อยกกระชับหน้าได้ ช่วยลดริ้วรอย และกระชับผิว
Nabota
เป็นโบท็อกมาจากประเทศเกาหลี ออกฤทธิ์ไว ให้ประสิทธิภาพการลดริ้วรอย เช่น ตีนกา รอยย่นหน้าผาก รอยย่นหัวคิ้ว เป็นสารโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์ถึง 98.7% สามารถลดอัตราการดื้อยาให้สามารถกลับมาฉีดซ้ำใหม่ได้
Botulax
เป็นโบท็อกมาจากประเทศเกาหลี นิยมใช้ฉีดบริเวณกรามเพื่อช่วยให้หน้าเรียวเล็ก ลดกราม เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น และยังนิยมใช้เพื่อลดริ้วรอยตามวัยอีกด้วย
Xeomin
เป็นโบท็อกมาจากประเทศเยอรมัน เป็นสารโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์ 100% ขนาดโมเลกุลเล็กและสามารถกระจายตัวได้ดี ช่วยแก้ปัญหาการดื้อโบท็อก นิยมใช้ลดเลือนริ้วรอย กระชับ ปรับรูปหน้า
การ ฉีดโบท็อก คือ การนำสารไปฉีดที่กล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ เพื่อลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้า รวมถึงรักษาอาการดังต่อไปนี้
- ฉีดโบท็อกริ้วรอยหน้าผาก
- ฉีดโบท็อกตีนกา
- ฉีดโบท็อกยกมุมปาก
- ฉีดโบท็อกปรับรูปหน้า ลดกราม
- ฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขน
- ฉีดโบท็อกลดเหงื่อใต้วงแขน ฝ่ามือ ฝ่าเท้า
- ฉีดโบท็อกลดกล้ามแขน หรือ น่อง
- ฉีดโบท็อกลิฟหน้าริ้วรอยที่ลำคอ
- ฉีดโบท็อกลดโหนกแก้ม
- ฉีดโบท็อกลดปีกจมูก
- ฉีดโบท็อกรัดแกนจมูกให้คมขึ้น
- ฉีดโบท็อกริ้วรอยหว่างคิ้ว
- ฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน
โบท็อกเหมาะกับใคร
โบท็อกของอเมริกาสามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ การฉีดโบท็อก จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ต่างๆ เช่นหน้าผาก รอยตีนกา ริ้วรอยรอบดวงตา ปาก และยังสามารถฉีดโบท็อกยกคิ้วขึ้น ทำให้ตาดูโตขึ้น แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว กระชับผิวหนัง รวมทั้งลดเหงื่อบริเวณรักแร้ได้อีกด้วย
ข้อดีของการฉีดโบท็อก
- การเห็นผลรวดเร็วโดยประมาณ 3 วัน หรือไม่เกิน 1 เดือน
- ราคาไม่สูงมาก เนื่องจากปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ
- ไม่ต้องพักฟื้นหรือพักหน้าสามารถไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
- ปลอดภัยเนื่องจากสารโบท๊อกซ์นั้นมีการใช้และมีงานวิจัยออกมามากมาย เกี่ยวกับการใช้ทั้งในความสวยงามหรือการรักษาโรคผลข้างเคียงน้อย
ผลข้างเคียงที่สามารถพบได้ทั่วไปหลังฉีด โบท็อก อาจเกิดจากความไม่เชี่ยวชาญของแพทย์ หรือเกิดจากผู้รับบริการปฏิบัติตัวหลังฉีด โบท็อก ไม่ถูกต้อง จะได้แก่
- อาจมีอาการปวดศีรษะหรือปวดในบริเวณที่ฉีด
- เคี้ยวอาหารได้ยากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่แข็งและเหนียว เพราะกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีด โบท็อก มามีความหนืดมากขึ้น
- ข้อต่อของขากรรไกรไม่แข็งแรงเท่าเดิม
- ใบหน้าทั้งสองข้างไม่สมมาตร หรือปากเบี้ยวเวลายิ้ม
- สำหรับผู้ที่แต่เดิมมีเนื้อแก้มเยอะ เมื่อฉีด โบท็อก จนหน้าเรียวขึ้นแล้ว อาจทำให้เนื้อแก้มห้อยคล้อยลงมา
- ส่วนมากผลข้างเคียงที่กล่าวไปข้างต้นนั้น มักส่งผลไม่ร้ายแรงมากนัก และจะเกิดในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น จากนั้นอาการก็จะหายไปเอง แต่ในกรณีที่ส่งผลข้าง
- เคียงระยะยาว ผู้เข้ารับบริการอาจจำเป็นจะต้องรอให้ สารโบท็อก ที่ฉีดเข้าไปสลายไปเองเสียก่อน แล้วอาการข้างเคียงจึงจะหายไป
การฉีดโบท็อก ไม่เป็นอันตราย หากฉีดกับแพทย์ที่มีคุณภาพและมีประสบการณ์อย่างแท้จริง โปรดระวังหมอกระเป๋า เพราะเขาไม่ใช่แพทย์จริง เขาคือผู้ช่วยหมอที่เห็นหมอฉีดโบท็อกบ่อย ๆ อาจจะจดจำเทคนิคต่าง ๆ แล้วนำไปลองฉีดให้คนไข้เองแบบผิด ๆ ถูก ๆ โบท็อก อันตราย หากคนฉีดไม่ใช่หมอจริงๆ เพราะหมอจะสามารถหาโบท็อกของแท้มาฉีดได้ เนื่องจากบริษัทยาจะส่งโบท็อกให้แก่หมอที่มีใบอนุญาตเท่านั้น ต่างจากหมอกระเป๋าที่ต้องซื้อโบท็อกหิ้ว หรือโบท็อกปลอมตามอินเตอร์เน็ต
ข้อปฏิบัติตัวก่อนที่ควรรู้ก่อนและหลังฉีดโบท็อก
ข้อปฏิบัติก่อนฉีดโบท็อก
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีดโบท็อกซ์
- ก่อนฉีดไม่ควรใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำ
- ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
- งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
ข้อปฏิบัติหลังฉีดโบท็อก
- ใช้น้ำแข็งประคบหากมีอาการบวมแดงหรือช้ำ
- ช่วงแรกงดการออกกำลังกายหนัก ๆ
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- ห้ามนอนราบประมาณ 3 – 4 ชั่วโมงหลังจากฉีด
- งดการทำหน้าหรือนวดหน้าแรง ๆ เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนจัด เช่น การแช่บ่อน้ำร้อน
ฉีดโบท็อกที่ไหนดี
- มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการ ติดไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่ายในคลินิก
- มีป้ายชื่อคลินิก และมีเลขที่ใบอนุญาต จำนวน 11 หลัก ติดไว้หน้าคลินิก
- คลินิกสะอาด ปลอดเชื้อ บรรยากาศโปร่งสบาย กว้างขวาง มีพื้นที่รับรอง
- มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างแท้จริง
- มีรางวัลการันตีประสบการณ์และความสามารถของแพทย์
- อุปกรณ์และเครื่องมือมีมาตรฐานผ่านการรับรองจาก อย.
- หากมีข้อสงสัย มีช่องทางให้ติดต่อสอบถามกับทางคลินิกและแพทย์ได้โดยตรง เช่น เบอร์โทรศัพท์ เพจเฟซบุ๊ก (Facebook) หลักของคลินิก ไลน์ (Line) หรืออินสตาแกรม (Instagram) เป็นต้น
รีวิวโบท็อก
สรุป
การฉีดโบท็อก เป็นการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum toxin type A) ที่ช่วยในการลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้ใบหน้าดูเรียบเนียน และผิวดูอ่อนเยาว์ การฉีดโบท็อกไม่เป็นอันตราย แต่ต้องเลือกคลินิกที่ดีและได้มาตรฐาน ทั้งตัวยาที่เป็นของแท้และประสบการณ์ของแพทย์ที่เชื่อถือได้ รวมทั้งมีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อเพิ่มการตัดสินใจได้